ASTVผู้จัดการรายวัน 30 กรกฎาคม 2555- กองทุน FTA โดดอุ้มอุตสาหกรรมยาสมุนไพรไทย รับมือเปิดเสรีอาเซียน เตรียมผลักดันให้เกิดตำรับยาครีมไพลสกัด และตำรับยาในบัญชียาหลัก 8 ตำรับ พร้อมติวเข้มอุตสาหกรรมยานำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ในการผลิต เพื่อคุมมาตรฐาน และเร่งโปรโมตให้มีการใช้เพิ่มขึ้
นายสุรศักดิ์ เรียงเครือ รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า กองทุนFTA ได้เล็งเห็นปัญหาผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากการเปิดเสรีการค้าในกรอบเขตการค้าเสรีอาเซียน (AFTA) จึงได้อนุมัติความช่วยเหลือแก่ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมยาสมุนไพรไทย เพื่อลดผลกระทบจากการเปิดเสรีทางการค้าดังกล่าว ที่คาดว่าจะมียาสมุนไพรจากจีน อาหารเสริมสมุนไพรจากยุโรป ออสเตรเลีย สหรัฐฯ ซึ่งทำตลาดอยู่แล้วจะเข้ามาทางสิงคโปร์เข้าสู่อาเซียนได้สะดวกและง่ายกว่าเดิม อาจส่งผลกระทบต่อยาสมุนไพรของไทย
ทั้งนี้ กองทุน FTA ได้อนุมัติความช่วยเหลือแก่ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมยาสมุนไพรไทย เพื่อลดผลกระทบจากการเปิดเสรี โดยจะเข้าไปผลักดันให้มีการพัฒนาให้ได้ตำรับยาครีมไพลสกัดที่มีการศึกษาประสิทธิผลทางคลินิก และตำรับยาสมุนไพรในบัญชียาหลัก 2554 จำนวน 8 ตำรับ ได้แก่ ตำรับยาเบญจกุล ตำรับยาไฟประลัยกัลป์ ยาตรีผลา ยาสหัศธารายาประสะจันทน์แดง และยาริดสีดวงมหากาฬยาธาตุบรรจบ และยาประสะไพล
"ต้องให้อุตสาหกรรมยาสมุนไพรของไทยมีการพัฒนาให้สามารถแข่งขันได้และเป็นผู้นำในอาเซียน ซึ่งรัฐบาลได้ให้การสนับสนุนจนสามารถสร้างสารสกัดสมุนไพรมาตรฐานเพื่อผลิตเป็นยารักษาโรคเหมือนยาแผนปัจจุบัน และสร้างสินค้าที่เป็นโปรดักต์ แชมเปี้ยน"
ขณะเดียวกัน ยังเร่งผลักดันให้ภาคเอกชนและภาครัฐที่อยู่ในอุตสาหกรรมผลิตยาสมุนไพร และผู้ผลิตยาสมุนไพรในโรงพยาบาล มีขีดความสามารถในการแข่งขันที่สูงขึ้น ทั้งด้านการผลิตและควบคุมคุณภาพของวัตถุดิบและผลิตภัณฑ์ยาสมุนไพร โดยผลักดันให้มีการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ในการผลิต เพื่อให้ยาสมุนไพรที่ได้มีคุณภาพและมาตรฐานตามที่กำหนด ลดการนำเข้ายานอก นอกจากนี้ ยังผลักดันให้โรงพยาบาลและประชาชนรู้จัก และส่งเสริมการใช้ยาสมุนไพรในบัญชียาหลักแห่งชาติ เพื่อสนับสนุนการใช้ยาสมุนไพรในการรักษาโรค และปกป้องตลาดยาภายในประเทศ
- 21 views