อนุกรรมการการมีส่วนร่วมและคุ้มครองสิทธิ สปสช.ชงจ่ายเยียวยากรณีเสียหายจากรับบริการ สธ. ครอบคลุม 3 กองทุน
วันนี้ ( 17 ก.ย.) ศ.นพ.อำนาจ กุสลานันท์ นายกแพทยสภา หนึ่งในกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) กล่าวว่า ในการประชุมอนุกรรมการการมีส่วนร่วมและการคุ้มครองสิทธิ สปสช. เมื่อเร็ว ๆนี้ ได้เชิญผู้แทนกรมบัญชีกลาง และสำนักงานประกันสังคม (สปส.)มาให้ความเห็นว่าหากมีการแก้ไขมาตรา 41 พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2545 จ่ายเงินช่วยเหลือผู้ได้รับความเสียหายจากการรับบริการสาธารณสุขให้กับผู้ป่วยทั้ง 2 กองทุนด้วยนั้นจะได้หรือไม่ ทางตัวแทนทั้ง 2 หน่วยงานระบุว่าขณะนี้ 2 กองทุนไม่มีกฎหมายที่จะจ่ายเงินช่วยเหลือแต่อย่างใด ถ้าหากมีการแก้ไขมาตรา 41 แล้วต้องไปแก้ไขกฎหมายของ 2 กองทุนด้วยก็เป็นเรื่องยุ่งยาก
นายกแพทยสภา กล่าวต่อว่า ได้ถามตัวแทนทั้ง 2 หน่วยงานว่าถ้า สปสช.จะเป็นเจ้าภาพด้วยการของบประมาณจากทางรัฐบาลเพิ่ม 1,000-2,000 ล้านบาทเพื่อเป็นเจ้าภาพในการดูแลกรณีเกิดความเสียหายจากการรับบริการทั้ง 3 กองทุน และแยกกองทุนนี้ออกมาต่างหากไม่รวมอยู่ในงบเหมาจ่ายรายหัว อีกทั้ง สปสช.มีบุคลากรดำเนินการเรื่องนี้อยู่แล้วทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด สามารถดำเนินการได้เลย ทั้ง 2 กองทุนเป็นผู้รับอย่างเดียว ไม่ต้องจ่ายอะไรจะมีปัญหาหรือไม่ ได้รับคำตอบว่า ไม่มีปัญหา ถ้าไม่ต้องไปแก้ไขกฎหมาย 2 กองทุน
“คงมีการพูดเรื่องนี่ในบอร์ด สปสช. หากบอร์ด สปสช.ไม่เห็นด้วยคงต้องนำเสนอผ่านช่องทางอื่น เช่น เสนอคณะกรรมาธิการการสาธารณสุข ส.ส.20 คน หรือประชาชนเข้าชื่อเสนอแก้ไขกฎหมายต่อไป ” ศ.นพ.อำนาจ กล่าวและว่า ไม่ได้คัดค้านร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองผู้เสียหายจากการรับบริการสาธารณสุขเพราะเป็นคนละเรื่องกัน
ด้าน นางสุนทรี หัตถี เซ่งกิ่ง ประธานคณะอนุกรรมการการมีส่วนร่วมและการคุ้มครองสิทธิ สปสช.กล่าวว่า ปัจจุบันได้มีการขยายมาตรา 41 จาก 2 แสนบาทเป็น 4 แสนบาทเริ่ม 1 ต.ค. นี้แต่คณะอนุกรรมการก็มาพิจารณาว่านอกจากการเยียวยาผู้ได้รับความเสียหายในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติแล้ว อีก 2 ระบบ คือ ประกันสังคม และสวัสดิการข้าราชการควรเยียวยาด้วยหรือไม่ ที่ประชุมเห็นด้วยในหลักการว่า ระบบสุขภาพอื่นก็ควรได้รับการเยียวยาเช่นกัน แต่วิธีปฏิบัติยังคงต้องหารือกันอีกนานเพราะไม่ใช่ว่าจะดำเนินการได้ทันที อีกทั้งต้องดูท่าทีรัฐบาลด้วย อย่างไรก็ตามจะสรุปความเห็นเสนอต่อประธานบอร์ด สปสช.เพื่อนำเสนอต่อรัฐบาลต่อไป
ที่มา : นสพ.เดลินิวส์วันที่ 17 ก.ย. 2555
- 1 view