ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

 

โรงพยาบาลเกษมราษฎร์สบช่องเศรษฐกิจเมืองชายแดนภาคเหนือโต ลุยทุ่มทุน 120 ล้านสร้างโรงพยาบาลที่อำเภอแม่สาย พร้อมเล็งเป้าเปิดสาขาเชียงของดักลูกค้าคนพม่า-ลาวแห่ใช้บริการเนืองแน่น

จังหวัดเชียงรายเป็นหัวเมืองใหญ่ชายแดนพม่าและ สปป.ลาว ปัจจุบันมีโรงพยาบาลเอกชนรายใหญ่ที่เปิดให้บริการประชาชนในพื้นที่ 2 ราย คือโรงพยาบาลโอเวอร์บรุ๊ค ซึ่งอยู่ในสังกัดมูลนิธิแห่งสภาคริสตจักรในประเทศไทย ตั้งอยู่ถนนสิงหไคล เขตเทศบาลนครเชียงราย อ.เมืองเชียงราย และอีกแห่งคือโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ศรีบุรินทร์ ในเครือโรงพยาบาลเกษมราษฎร์

ปัจจุบันโรงพยาบาลทั้ง 2 แห่งมีการจัดตั้งคลินิกสาขาอยู่ที่ชายแดนไทย-พม่า ด้านอำเภอแม่สาย โดยมีการเชื่อมโยงการรักษากับโรงพยาบาลแม่ในเขตอำเภอเมืองอย่างต่อเนื่อง โดยมีกลุ่มลูกค้าทั้งฝั่งไทยและประเทศเพื่อนบ้านไปใช้บริการเป็นจำนวนมาก

ทั้งนี้ โรงพยาบาลโอเวอร์บรุ๊คใช้ชื่อว่าคลินิกโอเวอร์บรุ๊คแม่สาย ซึ่งมีโครงการที่จะขยายสถานที่เพิ่มเติมเช่นกัน ล่าสุดนี้โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ศรีบุรินทร์ได้เริ่มก่อสร้างอาคารคลินิกศรีบุรินทร์ สาขาอำเภอแม่สาย บริเวณพื้นที่หมู่ 3 ตำบลเวียงพางคำ อำเภอแม่สาย

นายแพทย์เฉลิม หาญพาณิชย์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท บางกอก เชน ฮอสปิทอล จำกัด (มหาชน) เจ้าของ โรงพยาบาลเครือเกษมราษฎร์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้เริ่มก่อสร้างอาคารคลินิก ศรีบุรินทร์ สาขาเกษมราษฎร์ อำเภอแม่สายแล้ว บนพื้นที่ประมาณ 3 ไร่ เพื่อรองรับ ผู้ใช้บริการที่อยู่แนวชายแดนไทย-พม่า ด้านอำเภอแม่สาย ที่เพิ่มจำนวนมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งที่ผ่านมามีสถิติผู้ป่วยมาใช้บริการที่คลินิกวันละกว่า 300 คน ซึ่งในจำนวนนี้กว่า 50% เป็นผู้ป่วยที่เดินทางผ่านด่านพรมแดนไทย-พม่า มาจากจังหวัดท่าขี้เหล็ก และเมืองอื่น ๆ ในพม่า แต่คนเหล่านี้จะได้รับอนุญาตให้เข้ามารักษา ต่อเนื่องในฝั่งไทยได้เพียง 5 กิโลเมตร ซึ่งสถานพยาบาลที่มีอยู่แออัด และไม่พอที่จะรองรับในอนาคต โดยเฉพาะเมื่อเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน

นายแพทย์เฉลิมกล่าวอีกว่า ก่อนหน้านี้บริษัทมีคลินิกที่อำเภอแม่สายอยู่แล้ว แต่คับแคบและไม่มีสถานที่จอดรถ รวมทั้ง มีผู้ใช้บริการเพิ่มมากขึ้น จึงได้ลงทุนก่อสร้างโรงพยาบาลขนาดเล็ก ประกอบด้วยห้องตรวจโรคทั่วไป 6 ห้อง ห้องตรวจอายุรกรรม 2 ห้อง ห้องตรวจตา หู คอ จมูก 1 ห้อง ห้องฉุกเฉินขนาด 4 เตียง 1 ห้อง ห้องตรวจสูติ-นรีเวช 1 ห้อง ห้องตรวจเด็ก 2 ห้อง และห้องผ่าตัด 2 ห้อง ห้องเอกซเรย์ ห้องแล็บมาตรฐานสูง และเชื่อมโยงการรักษากับโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ศรีบุรินทร์ ในตัวเมืองเชียงราย ซึ่งมีการยกระดับเพิ่มอีก100 เตียง พร้อมอาคารใหม่ ใช้งบประมาณ 100 ล้านบาท

สำหรับคลินิกที่อำเภอแม่สาย ใช้ งบประมาณก่อสร้าง 120 ล้านบาท ปัจจุบันกำลังเร่งก่อสร้าง และมีกำหนดเปิดให้บริการในเดือนมิ.ย.2556 นี้ ซึ่งจะช่วยแก้ไขปัญหาผู้ป่วยล้นโรงพยาบาลได้เป็นอย่างดี

ขณะเดียวกันยังตั้งเป้าที่จะก่อสร้างคลินิกเพิ่มในพื้นที่อำเภอชายแดน อื่น ๆ ในจังหวัดเชียงรายด้วย เช่น อำเภอเชียงแสน และเชียงของ เพราะปัจจุบันมีผู้ป่วยจากฝั่ง สปป.ลาวเข้ามารักษาด้วย โดยมีแผนปักธงที่อำเภอเชียงของก่อนเป็นอันดับแรก เพราะในเดือนมิถุนายนนี้จะมีการเปิดใช้สะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 4 อำเภอเชียงของกับเมืองห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว ที่อยู่บนถนนอาร์สามเอ ไทย-สปป.ลาว-จีน ซึ่งจะทำให้ผู้คนหลายประเทศในภูมิภาคนี้เดินทางเพิ่มมากขึ้น จึงจำเป็นต้องมีโรงพยาบาลเอกชนที่ได้มาตรฐานรองรับนอกเหนือจากโรงพยาบาลของรัฐที่รับภาระหนักอยู่แล้ว ส่วนที่อำเภอเชียงแสนนั้นได้จัดหาที่ดินไว้แล้ว 11 ไร่

นอกจากขยายการลงทุนในพื้นที่ชายแดนด้านจังหวัดเชียงรายแล้ว บริษัทยังทุ่มงบฯลงทุนโครงการพัฒนา World medical center ที่กรุงเทพฯ อีก 1,000 ล้านบาท และที่เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี ใช้งบประมาณ 1,000 ล้านบาท เพื่อรองรับการเข้าสู่เออีซีอีกด้วย

ที่มา: หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ ฉบับวันที่ 4 - 6 มี.ค. 2556