ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

เห็ดหอม เป็นอาหารที่มีประโยชน์อยู่มาก ช่วยทำให้เลือดลมดี บำรุงระบบประสาท และระบบย่อยอาหาร

ส่วน เยื่อไผ่ ก็เป็นอาหารที่มีประโยชน์ไม่แพ้กัน คือ มีโปรตีน 15-18%, มีกรดอะมิโนที่ร่างกายต้องการถึง 16 ชนิด, มีวิตามินบี 2 ค่อนข้างสูง และมีสารต้านอนุมูลอิสระ

ทว่า สมัยนี้หากไม่รู้จักเลือกซื้อและเลือกทานอาหาร นอกจาก

คุณประโยชน์ที่ได้รับจากอาหารแล้ว ร่างกายอาจได้รับของแถมอื่นๆ อาทิ โลหะหนักเข้าไปด้วย เช่น สารหนู และปรอท

ปกติจะนิยมใช้สารหนูในอุตสาหกรรมการผลิตยารักษาโรค ผลิตสี วัตถุระเบิด ผลิตแก้ว และเซรามิก อีกทั้งมีการใช้ในวัตถุทางการเกษตร เช่น ยาฆ่าแมลง และยาฆ่าหนูสารหนู เป็นสารอันตราย หากร่างกายได้รับในปริมาณน้อยเป็นระยะเวลานานๆอาจเป็นสาเหตุของการเกิดมะเร็งในอวัยวะต่างๆได้ เช่น มะเร็งตับ ไต ปอด กระเพาะปัสสาวะ และต่อมลูกหมาก

ส่วนปรอท เป็นโลหะหนักอีกชนิดที่มักพบในน้ำทิ้งและของเสียจากโรงงานอุตสาหกรรมและพบปนเปื้อนในพืชอาหาร โดยปนเปื้อนมาจากดินและน้ำที่ใช้ในการเพาะปลูกพืช

หากร่างกายได้รับปรอทเป็นประจำ แม้จะได้รับในปริมาณไม่มาก จะทำให้ปรอทสะสมอยู่ในร่างกาย ส่งผลให้เป็นอันตรายต่อสมอง อวัยวะต่างๆ และอาจทำให้เป็นโรคสมองฝ่อได้

ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 98 (พ.ศ.2529) และฉบับที่ 273 (พ.ศ.2546) เรื่อง มาตรฐานอาหารที่มีสารปนเปื้อนกำหนดให้ในอาหารทั่วไปมีสารหนูปนเปื้อนได้ไม่เกิน 2 มิลลิกรัม ต่ออาหาร 1 กิโลกรัม

ส่วนปรอท กำหนดให้ปนเปื้อนได้ไม่เกิน 0.02 มิลลิกรัม ต่ออาหาร 1 กิโลกรัม

วันนี้สถาบันอาหารได้ทำการสุ่มเก็บตัวอย่างเห็ดหอมแห้งและเยื่อไผ่จำนวน 5 ตัวอย่าง จากพื้นที่ใน จ.สงขลา และ จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อนำมาวิเคราะห์การปนเปื้อนของโลหะหนัก 2 ชนิด คือ สารหนูและปรอท

ผลวิเคราะห์ปรากฏว่ามีเห็ดหอม 4 ตัวอย่าง ที่พบสารหนูปนเปื้อน แต่ปริมาณที่พบไม่เกินมาตรฐานที่กำหนด ส่วนปรอทไม่พบการปนเปื้อนเลยในทุกตัวอย่าง

ฉะนั้น เห็ดหอมวันนี้ทานกันได้แต่อย่ามาก เพื่อความปลอดภัย.

ที่มา: http://www.thairath.co.th

เรื่องที่เกี่ยวข้อง