ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

วันนี้ (31 ตุลาคม 2556) นายแพทย์วชิระ เพ็งจันทร์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับความคืบหน้าการบรรจุลูกจ้างชั่วคราวเป็นพนักงานกระทรวงสาธารณสุข หรือพกส. ว่า จากการประชุมคณะกรรมการบริหารพนักงานกระทรวงสาธารณสุข เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2556 ซึ่งมีนายแพทย์ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุขเป็นประธาน รองปลัดกระทรวงสาธารณสุขเป็นรองประธาน และมีตัวแทนของลูกจ้างตัวแทนผู้อำนวยการโรงพยาบาลทุกระดับ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ตัวแทนจากกรมวิชาการทุกกรมร่วมประชุม ที่ประชุมมีมติอนุมัติกรอบอัตรากำลังพนักงานกระทรวงสาธารณสุขจากการจ้างลูกจ้างชั่วคราวทั้งหมด 140,000 คน ซึ่งก่อนหน้านี้จ้างโดยไม่มีกรอบอัตรากำลัง แต่จากนี้ไปจะมีกรอบอัตรากำลังการจ้างพนักงานกระทรวงสาธารณสุข โดยคิดตามภาระงาน จำนวนประชากร และโอกาสที่จะพัฒนาหน่วยงานเพื่อบริการประชาชนโดยมีมติให้จัดกรอบอัตราจ้างร้อยละ 80 ของจำนวนพนักงานกระทรวงสาธารณสุขที่ต้องการทั้งหมด เพื่อใช้คนให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด เช่นโรงพยาบาลแห่งหนึ่งมี 177 คนหากคิดตามกรอบร้อยละ 80 จะเหลือลูกจ้าง142 คนหากสถานบริการใดต้องการขอกรอบเกินร้อยละ 80 ขึ้นไปให้ขออนุมัติเพิ่มเติมที่คณะกรรมการบริหารเขตบริการสุขภาพนั้นๆ และได้อนุมัติกรอบอัตรากำลังการจ้างให้สถานพยาบาลที่สังกัดกรมการแพทย์ กรมสุขภาพจิต ซึ่งทำข้อมูลมาเรียบร้อยก่อนหน่วยงานอื่น สามารถดำเนินการบรรจุและสั่งจ้างได้ทันทีมีผลย้อนหลัง 1 ตุลาคม 2556

นายแพทย์วชิระกล่าวต่อว่าในเรื่องกรอบวงเงินการจ้างได้มีมติเมื่อการประชุมครั้งที่แล้วว่า จะให้เพิ่มวงเงินร้อยละ 10 จากฐานการจ้างลูกจ้างชั่วคราวเดิมเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2556 เมื่อคิดกรอบอัตรากำลังคู่กับกรอบวงเงิน ตัวอย่างลูกจ้างชั่วคราวในสังกัดกรมสุขภาพจิตและกรมการแพทย์จ้างเต็มกรอบสามารถเพิ่มการจ้างได้ในวงเงินร้อยละ 7 ซึ่งไม่เกินร้อยละ 10 ซึ่งหน่วยงานอื่นๆ น่าจะทำได้คลายๆ กัน ในภาพรวมทั้งกระทรวงจะใช้เงินบำรุงเป็นเงินเดือนค่าจ้างพนักงานกระทรวงสาธารณสุข เพิ่มจากเดิม 15,000 ล้านบาทต่อปี รวมไม่เกิน 16,500 ล้านต่อปี และภายใน 2 ปีนี้ กระทรวงสาธารณสุขจะสามารวงสาธารณสุขเพิ่มขึ้นปีละ 7,500 คนจากเงินบำรุงเพื่อทดแทนพนักงานกระทรวงสาธารณสุขสายวิชาชีพ 24 สายงานที่บรรจุเป็นข้าราชการ ระหว่างพ.ศ.2556-2558 รวมจำนวน 22,500 คน ซึ่งมั่นใจว่าจะได้รับอนุมัติจาก กพ. และครม. เนื่องจากมีการจัดทำระบบการพัฒนากำลังคนไว้สมบูรณ์แบบ จะทำให้ลูกจ้างชั่วคราวสามารถได้รับการจ้างเป็นพนักงานกระทรวงสาธารณสุข ได้เกือบทั้งหมดถ้าไม่มีการจ้างเพิ่มขึ้นอีก

นายแพทย์วชิระกล่าวต่อไปว่าเงินค่าจ้างของพนักงานกระทรวงสาธารณสุข และลูกจ้างชั่วคราวที่ยังไม่ได้รับการจ้าง จะได้รับไม่น้อยกว่าเดิมที่เคยได้หรือได้รับมากกว่าเดิมซึ่งเป็นไปตามจำนวนลูกจ้าง หากมีจำนวนมาก วงเงินค่าจ้างจะเพิ่มในสัดส่วนที่น้อย แต่ไม่น้อยกว่าเดิมแน่นอนสิ่งจะได้มากกว่าเดิมคือเรื่องของสวัสดิการ ทั้งเรื่องความมั่นคงมีการต่อสัญญาจ้างทุก 4 ปี ย้ายได้ การลาศึกษาต่อ มีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ลูกจ้างชั่วคราวที่ผ่านการประเมินแต่ยังบรรจุไม่ได้ จะให้ทำสัญญาจ้างรายปีโดยระบุว่า ให้ได้รับเงินเดือนโดยใช้เงินบำรุงและวงเงินไม่น้อยกว่าเดิมเช่นกันโดยจะให้ทุกเขตทำสัญญาจ้างโดยเร็วที่สุดให้เสร็จภายในเดือนพฤศจิกายน และมีผลย้อนหลัง 1 ตุลาคม 2556