ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

เดลินิวส์ - เอ่ยชื่อ "แก่นตะวัน" สำหรับคนอ้วน คนที่ต้องการลดน้ำหนักน่าจะรู้จักกันเป็นอย่างดี เพราะมีการพูดปากต่อปากเกี่ยวกับสรรพคุณในเรื่องนี้ และอีกสารพัด ที่ใครได้ฟังเป็นต้องหูผึ่งไปค้นข้อมูลและซื้อหามารับประทาน ส่วนจะเป็นไปตามคำกล่าวอ้างหรือไม่ ไปฟังคำตอบกัน

เริ่มจาก รศ.ดร.สาโรจน์ ศิริศันศนีย กุล ศูนย์เทคโนโลยีการหมัก ภาควิชาเทคโน โลยีชีวภาพ คณะอุตสาหกรรมการเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ หนึ่งในคณะผู้วิจัยในเรื่องนี้ อธิบายว่า แก่นตะวัน ก็เหมือนพืชหัวทั่วไปที่มีแป้งและ น้ำตาล แต่แป้งและน้ำตาลไม่เหมือน กับพืชหัวชนิดอื่น เพราะไปเหมือน แป้งและน้ำตาลของบัวหิมะ และชิโครี่ ที่ไม่สามารถย่อยสลายได้ด้วยเอนไซม์ในร่างกาย จึงไม่จัดเป็นแหล่งพลังงานและไม่ เพิ่มปริมาณน้ำตาลในกระแสเลือด อย่างไรก็ตามจุลินทรีย์ใน ลำไส้ใหญ่สามารถย่อยได้จึงมีประโยชน์ในการจัดระบบนิเวศในร่างกายให้ดีขึ้น นอกจากนี้ยังมีไฟเบอร์ด้วยก็เลยทำให้ระบบขับถ่ายดีขึ้น

คนที่เป็นเบาหวานกินได้เพราะไม่ทำให้น้ำตาลเพิ่ม จึงมีการอ้างสรรพคุณว่ารักษาโรคเบาหวานได้ แต่ ผู้ป่วยจะต้องลดการรับประทานแป้งและน้ำตาลด้วย

ส่วนตัวไม่ใช่แพทย์แต่ในฐานะเป็นผู้แปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อนำไปใช้ทำอาหาร เช่น เบเกอรี่ เครื่องดื่ม สามารถใช้ได้หมด อาหารเสริมลดความอ้วนก็ใส่ เพราะแก่นตะวันมี "อินูลิน" เป็นคาร์โบไฮเดรตที่มีประโยชน์

เมื่อก่อนมีการนำเข้ามาในรูป "อินูลิน" นำมาใส่อาหารแปรรูป แต่ปัจจุบันบ้านเราปลูกได้ จึงนิยมรับประทานสดและบอกกันปากต่อปาก

ตอนนี้บ้านเรายังมีปัญหาเรื่องการแปรรูปในระดับอุตสาหกรรม เพราะราคาวัตถุดิบต่อกิโลกรัมยังสูงอยู่ หากราคาเท่า มันสำปะหลังต่อไปการแปรรูปก็ทำได้ ส่วนเปลือกของแก่นตะวันมีโปรตีน วิตามินบ้างเล็กน้อย ก็นำไปเป็นส่วนผสมของอาหารสัตว์ได้เป็นอย่างดี

สำหรับผลข้างเคียงจากการรับประทานหัวแก่นตะวัน ต้องบอกว่าไม่มี ยก เว้นคนธาตุอ่อนอาจทำให้ระบายท้อง แต่สำหรับคนธาตุแข็งอาจทำให้ท้องผูกได้

แก่นตะวันไม่มีโทษเพราะเป็นอาหารเหมือนกับพืชหัวชนิดอื่น ไม่ว่าจะ มัน เทศ มันสำปะหลัง เผือก แต่ให้ระวังเรื่องการปนเปื้อนจุลินทรีย์และสารตกค้าง เช่น ยาฆ่าแมลง โลหะหนัก ดังนั้นก่อนรับประทานต้องปอกเปลือก ล้างให้สะอาดก่อน กรณีนำไปแปรรูปต้องทำให้สุกเพราะอาจมีจุลินทรีย์ปนเปื้อน

ทุกคนสามารถรับประทานได้ โดยเฉพาะคนที่ต้องการรักษาสุขภาพ ต้องการลดความอ้วน ผู้ป่วยโรคเบาหวาน ที่ต้องการ ลดน้ำตาล ลดแป้ง กรณีผู้ป่วยโรคเบาหวาน ปกติต้องลดแป้งและน้ำตาลอยู่แล้ว พอมารับประทานแก่นตะวัน เมื่อลดแป้งและน้ำตาลก็ทำให้สุขภาพดีขึ้น คนที่รับประทานติดต่อกันอาจรู้สึกว่าระดับน้ำตาลลดลง ระบบขับถ่ายดีขึ้น

ดังนั้นคนที่จะรับประทานสามารถรับประทานเหมือนผลไม้ทั่วไป ไม่มากจนเกินไป และไม่ควรรับประทานซ้ำนาน ๆ ก็เหมือนกับการอาหารทั่วไปที่ต้องเน้นความหลากหลาย ไม่ได้รับประทานเพื่อรักษาโรค แต่เพื่อรักษาสุขภาพ อย่างคนที่เป็นโรคเบาหวาน ไม่ต้องรับประทานแก่นตะวันก็ได้ เพียงแต่หลีกเลี่ยงแป้งและน้ำตาลก็สามารถควบคุมโรคได้

กล่าวโดยสรุป "แก่นตะวัน" เป็น พืชอาหารชนิดหนึ่งที่เป็นแหล่งของคาร์โบไฮ เดรต ประกอบด้วยอินูลินและไฟเบอร์ ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย ไม่ใช่รับประทานเพื่อรักษา ดังนั้นจะรับประทานหรือไม่รับประทานก็ได้ ถือเป็นทางเลือกหนึ่ง

ด้าน นายนิเวศน์ บวรกุลวัฒน์ แพทย์แผนไทย กรมพัฒนาการแพทย์ แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า แก่นตะวันถูกนำมาใช้สักระยะแล้ว ส่วนใหญใช้ลดคอเลสเตอรอล ความดัน เบาหวาน บางคนกินสด ๆ บางคนเอาไปลอยในน้ำเชื่อม ซึ่งการรับประทานลักษณะนี้อาจทำให้น้ำตาลขึ้นได้ ดังนั้นควรรับประทานสด ๆ ดีกว่า

การรับประทานในปริมาณมากจะทำให้อิ่ม และรับประทานอาหารชนิดอื่นได้น้อยลง ดังนั้นไขมัน คอเลสเตอรอล ที่ลดลงนั้น เพราะรับประทานอาหารชนิดอื่นได้น้อยลงนั่นเอง ขณะเดียวกันคนที่ป่วยก็ต้องลดปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ เหล่านี้อยู่แล้ว

ปัจจุบันแก่นตะวันได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย มีการพูดถึงสรรพคุณอย่างที่กล่าวมา ซึ่งอาจทำให้เข้าใจผิดได้ ว่าแก่นตะวันสามารถรักษาโรคต่าง ๆ เหล่านี้ได้ ทำให้ผู้ป่วยไม่รับประทานยาแผนปัจจุบัน จึงขอเรียนว่า ไม่ได้รักษาจนโรคหายขาด ดังนั้นถ้าใครเป็นโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ต้องใช้อย่างระมัดระวัง มีการตรวจร่างกายเป็นประจำ

ข้อเสียของแก่นตะวันคงไม่มี แต่ผู้ป่วยโรคต่าง ๆ ที่กล่าวมาต้องระมัดระวัง อย่าไปคิดว่ารับประทานแล้วโรคจะหาย เพราะโดยข้อเท็จจริงสมุนไพรเดี่ยว ๆ ที่ใช้ในการรักษาโรคประสิทธิผลจะน้อยกว่าตำรับ แนะนำให้รับประทานเป็นอาหาร ไม่ใช่ยา เป็นทางเลือกหนึ่ง เพราะหลายคนเข้าใจผิดคิดว่าโรคจะหาย ลืมกินยาผลเสียก็ตามมา.

ที่มา: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์  วันที่ 8 ธันวาคม 2556

เรื่องที่เกี่ยวข้อง