ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

“เลขาธิการ สปสช.” ชวน ขรก.-พนักงาน อปท. “เบิกจ่ายตรงกองทุนสวัสดิการรักษาพยาบาล อปท.” ทั้งสะดวกรับบริการ แถมไม่ต้องสำรองจ่ายล่วงหน้า ย้ำระบบใกล้สมบูรณ์เกือบ 100% แล้ว พร้อมเผยความคืบหน้าหลังดำเนินงาน 4 เดือน มีหน่วยบริการทำเรื่องขอเบิกจ่ายตรงแล้ว 3.6 แสนครั้ง เป็นเงินเบิกจ่าย 7.4 ร้อยล้านบาท

วันที่ 25 ก.พ. 57 โรงแรมริเวอร์ไซด์ กทม. - นพ.วินัย สวัสดิวร เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวชี้แจงทำความเข้าใจ “ระบบการเบิกจ่ายตรงสิทธิสวัสิการค่ารักษาพยาบาลขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.)” ในการประชุมแนวทางปฏิบัติในการเข้ารับบริการเบิกจ่ายตรงค่ารักษาพยาบาลผู้บริหารท้องถิ่น ข้าราชการส่วนท้องถิ่น ลูกจ้างประจำ และครอบครัว” จัดโดยสมาคมข้าราชการและพนักงานจ้างท้องถิ่นแห่งประเทศไทย ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) มีตัวแทนข้าราชการส่วนท้องถิ่นเข้าร่วม 300 คน

นพ.วินัย กล่าวว่า การรักษาพยาบาลของข้าราชการพนักงานส่วนท้องถิ่น แต่เดิมเป็นระบบที่แยกกองทุนรักษาพยาบาลของแต่ละท้องถิ่นในการดำเนินการกันเอง โดยข้าราชการพนักงานส่วนท้องถิ่นที่เข้ารับบริการรักษาพยาบาลต้องสำรองจ่ายไปก่อนและนำมาเบิกจ่ายในภายหลัง ส่งผลให้เกิดปัญหาการกู้หนี้ยืมเงินในการนำมาสำรองจ่ายนี้ ถือเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการเข้าถึงการรักษา ด้วยเหตุนี้จึงมีการผลักดันจัดตั้งกองทุนสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการส่วนท้องถิ่น หรือ กองทุนสวัสิการรักษาพยาบาล อปท. พร้อมให้มีสิทธิเบิกจ่ายตรงเทียบเท่าข้าราชการสังกัดสำนักงานข้าราชการพลเรือน (กพ.) ถือเป็นนโยบายรัฐบาล และได้ลงนามความร่วมมือ 13 องค์กร พร้อมออกประกาศเป็น พรก.มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2556 ที่ผ่านมา และมอบให้ สปสช.ทำหน้าที่ในการจัดการบริหารกองทุน

“สมัยก่อนค่ารักษาพยาบาลแต่เดิมจะถูกส่งกระจายไปยังท้องถิ่นก่อน แต่การจัดตั้งกองทุนสวัสดิการรักษาพยาบาลนี้จะทำการตัดงบประมาณแต่ต้นน้ำเพื่อนำมาเข้ากองทุน ที่คำนวณอ้างอิงจากค่ารักษาพยาบาลในระบบสวัสดิการข้าราชการ อยู่ที่ 12,000 บาทต่อคนต่อปี ซึ่งจำนวนข้าราชการท้องถิ่นมีราว 2 แสนคน เมื่อรวมคนในครอบครัว คาดว่าจะอยู่ที่ 7 แสนคน เบื้องต้นทางองค์กรส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นได้จัดเตรียมงบประมาณไว้นที่ 7.061 ล้านบาท และได้โอนมายัง สปสช.เพื่อดำเนินการ 4.061 ล้านบาทแล้ว” เลขาธิการ สปสช. กล่าว

นพ.วินัย กล่าวว่า จากการดำเนินงานภายหลังเริ่มกองทุนสวัสดิการรักษาพยาบาล อปท.ในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมานั้น จากข้อมูล ณ วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2557 มีหน่วยบริการเรียกเก็บค่ารักษาพยาบาลจากระบบเบิกจ่ายตรงมายัง สปสช. 928 แห่ง แยกเป็นการเบิกจ่ายผู้ป่วยนอก 341,560 ครั้ง เป็นจำนวนเงิน 342,061,381 ล้านบาท เบิกจ่ายผู้ป่วยใน 22,594 ครั้ง เป็นจำนวนเงิน 400,810,316 ล้านบาท รวมจำนวนบริการ 364,154 ครั้ง เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 742,871,697 ล้านบาท ทั้งนี้จากข้อมูลดังกล่าวถือว่ามีการเบิกจ่ายตรงที่น้อยมาก จึงอยากให้ข้าราชการและพนักงาน อปท. ลงทะเบียนเพื่อเบิกจ่ายตรงเพิ่มมากขึ้น ขณะที่การเบิกจ่ายโดยใบเสร็จมี 70,140  ใบเสร็จ เป็นเงินประมาณ 137.9 ล้านบาท โดย สปสช.อนุมัติแล้ว 55.1 ล้านบาท ที่เหลืออยู่ระหว่างตรวจสอบ

นพ.วินัย กล่าวย้ำว่า ขณะนี้ข้าราชการพนักงานส่วนท้องถิ่นสามารถลงทะเบียนเพื่อใช้สิทธิเบิกจ่ายตรงไม่ต้องสำรองจ่ายได้ เพียงแค่ลงทะเบียนผู้มีสิทธิกับทาง อปท.ที่สังกัดก่อนเท่านั้น เพื่อให้มีรายชื่อปรากฎในฐานทะเบียนของทาง สปสช.ที่เป็นการยืนยันว่า ท่านเป็นผู้มีสิทธิในกองทุนสวัสดิการรักษาพยาบาลนี้ ทั้งยังเป็นการสร้างความมั่นใจให้หน่วยบริการทั่วประเทศในการตรวจสอบว่าไม่มีปัญหาในการเบิกจ่ายค่ารักษาแน่นอน ทั้งนั้ท่านสามารถตรวจสอบว่ามีชื่อในฐานทะเบียน สปสช.แล้วหรือไม่ เพียงสอบถามผ่านสายด่วน 1330 และหากพบว่ายังไม่มีรายชื่อให้ติดต่อกับทาง อปท.เพื่อดำเนินการขึ้นทะเบียนผู้มีสิทธิโดยเร็ว

อย่างไรก็ตามในกรณีที่เข้ารักษาพยาบาลโดยไม่ได้ลงในฐานทะเบียนเพื่อเบิกจ่ายตรงและได้สำรองจ่ายไปก่อนนั้น ทาง สปสช.ได้ออกแบบการเบิกจ่ายไว้เช่นกัน เพียงแต่ให้นำใบเสร็จส่งผ่านทาง อปท.ต้นสังกัดเพื่อเบิกค่ารักษากับทาง สปสช. ได้ แต่จะมีความยุ่งยากและต้องใช้เวลามากกว่าต่างจากระบบเบิกจ่ายตรง ดังนั้นจึงอยากให้ข้าราชการพนักงาน อปท.ลงทะเบียนระบบเบิกจ่ายตรง ซึ่งขณะนี้ความสมบูรณ์ของระบบเกือบ 100% แล้ว ทั้งนี้ในกรณีมีปัญหาการเข้ารับบริการสามารถแจ้งมายัง สปสช. โดยผ่านทางสายด่วน 1330 ได้เช่นกัน