ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

หัวหน้าที่ปรึกษาด้านวิทยาศาสตร์ของรัฐบาลสหราชอาณาจักร กล่าวว่าการที่โลกเชื่อมโยงถึงกันมากขึ้น ทำให้สหราชอาณาจักรมีความเสี่ยงนำเชื้อโรคร้ายแรง เช่น อีโบลา เข้ามาในประเทศได้

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เซอร์ มาร์ค วอลพอร์ต หัวหน้าที่ปรึกษาด้านวิทยาศาสตร์ของรัฐบาลสหราชอาณาจักร (ยูเค) กล่าวในการให้สัมภาษณ์แก่สำนักข่าว เทเลกราฟ ของอังกฤษ ว่า การเชื่อมโยงถึงกันของโลกที่กำลังเพิ่มมากขึ้น ทำให้สหราชอาณาจักรตกอยู่ในความเสี่ยง จากการนำเชื้อโรคต่างชาติเข้ามาในประเทศ

โรคต่างชาติร้ายแรงอย่าง 'อีโบลา' อาจเป็นภัยคุกคามใหญ่หลวงต่อสหราชอาณาจักร โดยเชื้อไวรัสตัวนี้มีอัตราทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตถึง 90% และจนถึงตอนนี้มันทำให้มีผู้เสียชีวิตในประเทศกินี, ไลบีเรีย และเซียร์ราลีโอนแล้วมากกว่า 670 ราย

กระทรวงสาธาณสุขอังกฤษได้แจ้งเตือนไปยังแพทย์ในประเทศ ให้จับตาดูสัญญาณต่างๆ ของไวรัสอีโบลา หลังจากมีข่าว นายแพทริค ซอว์เยอร์ ที่ปรึกษาชาวอเมริกันประจำกระทรวงการคลังไลบีเรีย ติดเชื้อมรณะตัวนี้ กลับสามารถโดยสารเครื่องบินพาณิชย์ไปยังประเทศไนจีเรีย ก่อนจะเสียชีวิตที่นั่นเมื่อสัปดาห์ก่อน ซึ่งแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า ไวรัสตัวนี้ไม่ได้อยู่ภายใต้การควบคุม

ในการให้สัมภาษณ์กับเทเลกราฟ เซอร์ มาร์ค วอลพอร์ต กล่าวว่า "การเชื่อมโยงถึงกันของโลกที่กำลังเพิ่มมากขึ้น ทำให้อังกฤษตกอยู่ในความเสี่ยง ที่ผ่านมาเราอยู่ในตำแหน่งที่ได้เปรียบทางภูมิศาสตร์ เนื่องจากเป็นเกาะ แต่เรากำลังมีชีวิตอยู่ในโลกที่โลกเชื่อมต่อถึงกันอย่างสมบูรณ์ ซึ่งความวุ่นวายในประเทศที่ห่างไกลจะกลายเป็นความเสี่ยงใหญ่หลวง"

"ตลอดจนการติดเชื้อโรคที่อันตรายที่สุดของมนุษย์ มักเป็นเชื้อที่มาจากสายพันธุ์อื่นๆ แม้เราจะโชคดีเมื่อครั้งโรคซาร์สระบาด แต่เราต้องพยายามเต็มที่ในการกวาดหาสัญญาณความเปลี่ยนแปลงที่เพิ่งเกิดขึ้น เราต้องคิดถึงความเสี่ยงและการจัดการความเสี่ยงอย่างเหมาะสม รัฐบาลกำลังจับตาดูการระบาดของอีโบลาอย่างใกล้ชิด และพวกเขาเตรียมพร้อมเพื่อรับมือมัน" เซอร์ วอลพอร์ต กล่าว

อย่างไรก็ตาม เซอร์ วอลพอร์ต ระบุด้วยว่า ในตอนนี้ยังไม่มีรายงานพบผู้ติดเชื้ออีโบลาในสหราชอาณาจักร และความเสี่ยงที่ผู้เดินทางไปแอฟริกาตะวันตกและติดโรคนี้ก็ยังต่ำมาก