ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ร่วมลงนามกับรัฐบาลญี่ปุ่น ในการเสริมสร้างศักยภาพความสามารถทางห้องปฎิบัติการด้านการวินิจฉัยและพัฒนา การนำเทคโนโลยีใหม่มาใช้ในการวินิจฉัย และการถอดรหัสพันธุกรรมของเชื้อวัณโรคเพื่อประเมินการดื้อต่อยาต้าน วัณโรค โดยมีเป้าหมายให้ผู้ป่วยวัณโรคในประเทศไทยมีโอกาสเข้าถึงเทคโนโลยีใหม่ในการตรวจวินิจฉัยและการรักษาวัณโรคที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งผลสำเร็จของโครงการวิจัยนี้จะมีส่วนช่วยลดปัญหาวัณโรคของทั้งประเทศไทยและประเทศญี่ปุ่น

นายแพทย์อภิชัย มงคล อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวภายหลังการร่วมลงนามข้อตกลงโครงการวิจัยการแก้ไขปัญหาวัณโรคระหว่างกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข กับรัฐบาลญี่ปุ่น ณ โรงแรมเดอะสุโกศล กรุงเทพฯ ว่า วัณโรคเป็นโรคติดต่อเรื้อรังของระบบทางเดินหายใจที่เป็นปัญหาทางสาธารณสุขที่สำคัญของประเทศไทยและกลุ่มประเทศอาเซียน  ซึ่งในแต่ละปีมีจำนวนผู้ป่วยวัณโรคในประเทศไทยประมาณ 80,000 ราย และเสียชีวิตประมาณ 5,000 – 6,000 ราย อย่างไรก็ตามปัจจุบันมีเทคโนโลยีในการวินิจฉัยและรักษาวัณโรคมีราคาถูกลง รวมทั้งองค์การอนามัยโลกได้แนะนำให้แต่ละประเทศใช้เทคโนโลยีที่มีความเหมาะสม โดยสนับสนุนให้แต่ละประเทศพัฒนาศักยภาพในการวินิจฉัยและรักษาวัณโรคให้ได้มาตรฐานการรักษาวัณโรคในระดับนานาชาติ ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขไทยได้สนับสนุนให้มีการพัฒนาตามมาตรฐานดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง ในส่วนของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้มอบหมายให้สถาบันชีววิทยาศาสตร์การแพทย์ พัฒนาศักยภาพความสามารถทางห้องปฏิบัติการ โดยนำเทคโนโลยีใหม่มาใช้สำหรับการวินิจฉัยการติดเชื้อและการแสดงอาการของวัณโรค  การถอดรหัสพันธุกรรมของเชื้อวัณโรคเพื่อประเมินภาวะดื้อต่อยาต้านวัณโรค การศึกษาเภสัชจลนศาสตร์และเภสัชพันธุศาสตร์ของระดับยาต้านวัณโรคในประชากรไทย และการศึกษาเภสัชพันธุศาสตร์เพื่อเลือกขนาดยาต้านวัณโรคให้เหมาะสมกับประชากรไทย

อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับระยะ 4 ปีต่อจากนี้ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ร่วมกับ School of Internationnal Health (SIH), Graduate School of Medicine, Faculty of Medicine, มหาวิทยาลัยโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น  ได้จัดทำโครงการความร่วมมือทางวิชาการไทย-ญี่ปุ่น เรื่อง “Integrative Application of Human and Pathogen Genomic Information for Tuberculosis Control” โดยได้รับการสนับสนุนจากประเทศญี่ปุ่น ทางด้าน Science and Technology Cooperative of Global Issues ภายใต้โปรแกรม Science and Technology Research Partnership for Sustainable Development (SATREPS)  ซึ่งโครงการ

ความร่วมมือนี้เป็นโครงการที่ได้รับการรับรองการดำเนินงานโดยสำนักงานความร่วมมือเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศ (สพร.) กระทรวงการต่างประเทศ  โดยกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์จะได้รับการสนับสนุนเครื่องมือในการวิจัยจากรัฐบาลญี่ปุ่นมูลค่า 50 ล้านบาท และการถ่ายทอดเทคโนโลยีจากผู้เชี่ยวชาญ มหาวิทยาลัยโตเกียว สถาบันวิจัยวัณโรคแห่งประเทศญี่ปุ่น   สถาบันริเคน (RIKEN) และโรงพยาบาลโรคปอด Fukujuji hospital โดยการสนับสนุนจากรัฐบาลญี่ปุ่นนี้จะดำเนินการผ่านทาง Japan Sciences and Technology agency และ Japan International Cooperation Agency (JICA)  ทั้งนี้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้จัดสรรงบประมาณสนับสนุนอีกประมาณกว่า 20 ล้านบาท 

“โครงการนี้ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานของกระทรวงสาธารณสุข ได้แก่ สถาบันโรคทรวงอก โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ สำนักวัณโรค กรมควบคุมโรค คณะวิทยาศาสตร์และคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพ โดยมีเป้าหมายให้ผู้ป่วยวัณโรคในประเทศไทยมีโอกาสเข้าถึงเทคโนโลยีใหม่ในการตรวจวินิจฉัยและได้รับการรักษาวัณโรคที่มีประสิทธิภาพทัดเทียมกับประเทศพัฒนาแล้ว ได้แก่ การตรวจระดับยาต้านวัณโรคเพื่อประกอบการรักษา การตรวจทางเภสัชพันธุศาสตร์ รวมทั้งการสร้างองค์ความรู้ทางด้านพันธุกรรมของ  วัณโรคทั้งของผู้ติดเชื้อและเชื้อวัณโรค  ซึ่งผลสำเร็จของโครงการวิจัยนี้จะมีส่วนช่วยลดปัญหาวัณโรคของประเทศไทยและญี่ปุ่นได้” นายแพทย์อภิชัยกล่าว