ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

อภ.ได้ผู้รับจ้างสร้างโรงงานผลิตยารังสัต 1 รายใหม่แล้ว คือ บ.แอร์พลัส แอ๊พพลาย ในค่าจ้าง 45 ล้านบาท เริ่มดำเนินการ 24 พ.ย.นี้ คาดสามารถทดลองการผลิตยากลุ่มแคปซูลเพื่อให้อย.รับรอง GMP มิ.ย.58 และในก.ย.58 จะมีการผลิตยากลุ่มแคปซูลกลุ่มแรกออกสู่ตลาดได้ ทั้งหมด 17 รายการ กำลังการผลิต 703 ล้านเม็ดต่อปี ส่วนยาเม็ดจะผลิต 15 รายการ กำลังการผลิต 1,622 ล้านเม็ดต่อปี

พลโทศุภกร สงวนชาติศรไกร 

22 พ.ย.57 พลโทศุภกร สงวนชาติศรไกร ประธานกรรมการองค์การเภสัชกรรม(บอร์ดอภ.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการดำเนินการก่อสร้างโรงงานผลิตยารังสิต 1 ในส่วนของการก่อสร้าง อาคารผลิตยาต้านไวรัสเอดส์ และอาคารสนับสนุน ว่า จากกรณีที่องค์การเภสัชกรรม(อภ.)ได้ยกเลิกสัญญาจ้างบริษัทผู้รับจ้างเดิมไป เนื่องจากบริษัทไม่สามารถทำงานให้แล้วเสร็จตามสัญญา และงานส่วนที่ส่งมอบแล้วมีข้อบกพร่องไม่เป็นไปตามข้อกำหนด โดยเฉพาะระบบควบคุมอุณหภูมิ และความชื้นภายในอาคารผลิต ซึ่งส่งผลกระทบต่อการผลิตยาของอภ.จึงจำเป็นต้องหาผู้รับจ้างรายใหม่นั้น

พลโทศุภกร กล่าวต่อว่า ดังนั้นเพื่อให้การดำเนินการโครงการก่อสร้างดังกล่าวดำเนินการแล้วเสร็จสมบูรณ์สามารถเปิดดำเนินการผลิตยาได้โดยเร็วอภ.จึงได้ดำเนินการจัดหาผู้รับจ้างรายใหม่ ซึ่งขณะนี้องค์การฯได้ผู้รับจ้างที่จะเข้ามาดำเนินการก่อสร้างแล้ว คือ บริษัท แอร์พลัส แอ๊พพลาย จำกัด โดยได้ลงนามในสัญญาว่าจ้างในวันศุกร์ที่ 21 พ.ย. 57 ค่าจ้างตามสัญญา 45 ล้านบาท จากราคากลาง 45,237,751.05 บาท โดยในการปรับปรุงก่อสร้างในส่วนงานที่เหลือทั้งหมดนี้จะใช้ระยะเวลารวมทั้งสิ้นประมาณ 210 วัน นับจากวันส่งมอบพื้นที่

ทั้งนี้อภ.จะส่งมอบพื้นที่เพื่อให้ผู้รับจ้างเข้าดำเนินการสำรวจพื้นที่ต่างๆ ในวันจันทร์ที่ 24 พ.ย. 57 โดยทั้งนี้ในระยะแรกจะเร่งดำเนินการปรับปรุงในส่วนของ Module การผลิตยากลุ่มแคปซูล โดยมีกำหนดแล้วเสร็จภายใน 120 วันนับจากวันส่งมอบพื้นที่หรือประมาณเดือนมีนาคม 2558 ในขณะเดียวกันจะดำเนินการปรับปรุงในส่วนของอีก 3 Modules ที่เหลือที่ใช้สำหรับการผลิตยาเม็ด และยาแคปซูลชนิด Pellet คู่ขนานกันไปซึ่งจะดำเนินการแล้วเสร็จภายใน 180 วันนับจากวันส่งมอบพื้นที่คาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณเดือนพฤษภาคม 2558 พร้อมกันนั้นจะดำเนินการในส่วนงานแก้ไขข้อบกพร่องของอาคารอำนวยการ งานภายนอกอาคาร งานตรวจสอบความถูกต้อง(Validation), Training, As-built Drawing โดยทั้งหมดนี้จะดำเนินการเสร็จภายใน 210 วัน คาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณ เดือนมิถุนายน 2558

ประธานบอร์ดออภ. กล่าวว่า เมื่อการปรับปรุงก่อสร้างในแต่ละ Module แล้วเสร็จ อภ. จะทำการทดลองการผลิตเพื่อให้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.)เข้ามาตรวจรับรองมาตรฐาน GMP โดยในส่วน Module การผลิตยาแคปซูล อย.จะเข้ามาตรวจรับรอง GMP ในเดือนมิถุนายน 2558 และคาดว่าจะได้รับการรับรองในเดือนสิงหาคม 2558 ดังนั้นยากลุ่มแคปซูลจะเป็นยากลุ่มแรกที่จะออกสู่ตลาดได้ประมาณเดือน กันยายน 2558

สำหรับโรงงานผลิตยารังสิต 1 จะดำเนินการผลิตภายใต้มาตรฐาน GMP ที่ อย.ให้การรับรอง ซึ่งเป็นการตรวจตามแนวทางของมาตรฐาน GMP-PIC/s และดำเนินการผลิตด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย มีกำลังการผลิตสูง โดยในเบื้องต้นจะผลิตยาแคปซูล จำนวน 17 รายการ มีกำลังการผลิต จำนวน 703 ล้านเม็ดต่อปี ในส่วนของยาเม็ดจะผลิต จำนวน 15 รายการ มีกำลังการผลิตจำนวน 1,622 ล้านเม็ดต่อปี ซึ่งการที่มีกำลังการผลิตสูงนี้ จะส่งผลให้ผู้ป่วยได้เข้าถึงยาคุณภาพได้มากขึ้น