ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

เป็นเวลา 16 ปีมาแล้วที่ นางฮาซานียะห์ หะยีเจะอาแว ได้ทำหน้าที่อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ในพื้นที่อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี ซึ่งเป็นพื้นที่เขตสีแดง มีความขัดแย้งระหว่างภาครัฐและชุมชนบางกลุ่ม งานที่เธอทำในวันนี้ไม่ใช่แค่งานส่งเสริมสุขภาพเท่านั้น แต่ยังเป็นงานที่ช่วยเสริมสร้างความเข้าใจอันดีให้กับคนในพื้นที่ และคนของภาครัฐ โดยไม่กลัวอันตรายที่จะเกิดขึ้น

นางฮาซานียะห์ หะยีเจะอาแว

ผลของการทำความดี ส่งผลให้ ฮาซานียะห์ ได้รับรางวัลชัยนาทนเรนทร ประจำปี 2557ประเภทประชาชน ด้วยวัย 48 ปี ในทุกๆ รางวัลที่เธอได้รับมักจะสร้างและเป็นกำลังใจให้เธอได้ทำหน้าที่ของอสม. เพื่อคนในพื้นที่มีสุขภาพร่างกายและใจดีขึ้น รวมทั้งความสันติภาพในพื้นที่

ฮาซานียะห์ เล่าว่า ก่อนที่เธอจะก้าวเข้าสู่การเป็น อสม.นั้น ที่บ้านเป็นครอบครัวใหญ่ มีคุณตาเป็นโต๊ะอิหม่าม จึงทำให้ในทุกๆ วันของที่บ้านเต็มไปด้วยผู้คน ทั้งมาพูดคุยหรือขอความช่วยเหลือ เธอจึงเห็นภาพที่คุณตาให้ความช่วยเหลือเป็นภาพที่ชินตาและซึมซับมาเรื่อยๆ จนกระทั่งวันที่คุณตาเสียชีวิตไป จะมีผู้ที่มีปัญหาสุขภาพจิตที่เคยมาพูดคุยกับคุณตาเป็นประจำ เมื่อคุณตาเสียเขาก็ยังมาหาขอความช่วยเหลือ ตนได้รับหน้าที่ให้คำปรึกษาไปโดยปริยาย

หลังจากนั้นไม่นาน เพื่อนบ้านชวนมาทำงาน อสม. ซึ่งก่อนหน้านี้ ฮาซานียะห์และสามี มีอู่ อัด ฉีดรถยนต์ เมื่อเข้าสู่ยุคฟองสบู่แตก จึงได้ขายกิจการให้ลูกน้องในอู่ไป และมีเวลามากขึ้น จึงเริ่มบทบาทการเป็น อสม.ในปี พ.ศ.2541 พื้นที่ ตำบลบานา อำเมือง จังหวัดปัตตานีเรื่อยมา และยังเป็นคนแรกของครอบครัวที่เป็น อสม.อีกด้วย

“ด้วยความที่พี่จบเศรษฐศาสตร์ การคลัง จากมหาวิทยาลัยรามคำแหง ไม่ค่อยมีความเรื่องของการดูแลสุขภาพอนามัย  โชคดีที่ได้เจ้าหน้าที่ที่มีความรู้ในเรื่องดังกล่าวช่วยหาข้อมูล และพี่ได้ศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมจากที่ต่างๆ จนปัจจุบัน สามารถเป็นวิทยากรถ่ายทอดเรื่องสุขภาพให้กับคนในชุมชนได้แล้ว” ฮาซานียะห์ กล่าว

นอกจากที่มีคุณตาเป็นแรงบันดาลใจในการช่วยเหลือชาวบ้านแล้ว ฮาซานียะห์ บอกว่า ที่สมัครเป็นอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านหรืออสม.เพราะเห็นว่าสุขภาพเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งได้ทำกิจกรรมต่างๆ ที่ได้รับมอบหมายและทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ด้านงานป้องกัน งานส่งเสริม และฟื้นฟูสุขภาพของคนในชุมชน จนได้รับความไว้วางใจจากชุมชน และกลุ่ม ให้ดำรงตำแหน่งต่างๆ

ที่ผ่านมา ฮาซานียะห์ได้รับรางวัลเป็นอาสาสมัครสาธารณสุขดีเด่นระดับชาติ สาขาการปฏิบัติงานในพื้นที่พิเศษ ที่มีผลงานเด่นและนวัตกรรมจัดตั้งหน่วยอสม.เฉพาะกิจปฏิบัติการช่วยเหลือ เพื่อนอสม.และประชาชนผู้ประสบความเดือดร้อนเฉพาะกิจปัตตานี ตั้งเครือข่ายสร้างสุขภาพและภาคเครือข่ายอื่นๆ ในทุกอำเภอของจังหวัดปัตตานี การส่งเสริมสันติภาพใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ โดยเน้นความบันเทิง สนุกสนาน เรียบง่ายในการสื่อสาร สร้างความเข้าใจ ลดอคติ ระหว่างประชาชนกับภาครัฐ และยังได้รับรางวัลก่อนหน้านี้อีกจำนวนมาก รวมถึงได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่สรรเสริญยิ่ง ดิเรกคุณาภรณ์ ประจำปี 2556

หลักในการทำงานของฮาซานียะห์ คือ ทุกครั้งเมื่อพบปัญหา ต้องมีความรอบคอบ ต้องมองทุกๆ ด้าน และนำมาแก้ไข ต้องรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น ไม่ยึดตนเองเป็นใหญ่ มุ่งมั่นที่จะทำงานให้สำเร็จ ไม่ท้อถอย มีเครือข่ายร่วมกันสร้างและร่วมกันแก้ ทำงานเป็นทีม และนับว่าเป็นความโชคดี ที่การทำงานของ อสม.ในพื้นที่ไม่มีการแบ่งแยกว่าใครเป็นอสม.ไทยพุทธ ไทยมุสลิม

“สำหรับการปฏิบัติงานในพื้นที่จังหวัดปัตตานี ถามว่ามีความกลัวหรือไม่  ต้องบอกเลยว่าบางครั้งก็กลัว บางครั้งก็ไม่กลัว คนที่เป็นมุสลิมมีความเชื่อว่า พระเจ้าจะเป็นผู้กำหนด ถ้าเรายังไม่ถึงเวลาที่ตายก็จะไม่ตาย ”

ฮาซานียะห์ กล่าวว่า หัวใจสำคัญของการเป็น อสม.คือ คำว่า อาสา คนที่เข้ามาทำ ต้องมีจิตอาสาพร้อมที่จะช่วยเหลือผู้อื่น โดยไม่หวังผลตอบแทน ทำงานด้วยใจที่อยากจะทำงาน ถึงแม้ว่าจะไม่มีใครเห็น แต่พระเจ้าเห็น พร้อมที่จะเสียสละ โดยให้มีความสมดุลระหว่างชีวิต ครอบครัว ชุมชน และธรรมชาติ เพื่อเป็นการตอบแทนคุณแผ่นดิน

สิ่งที่ฮาซานียะห์ อยากจะฝากไปถึง อสม.รุ่นใหม่ที่จะเข้ามาทำงาน ว่า งาน อสม.เป็นงานที่ทำด้วยจิตใจ จากเดิมไม่มีค่าตอบแทน แต่ในปัจจุบันมีค่าตอบแทนขึ้นมา บางคนอาจจะพูดว่า ที่มาทำงาน อสม.เพราะอยากได้เงินค่าตอบแทนใช่ไหม ซึ่งตนอยากจะบอกกับอสม.รุ่นใหม่ว่า ให้ทำงานด้วยใจ อย่าไปยึดถือเรื่องเงิน แล้วเราจะมีความสุข

นอกจากนี้ อสม.ที่ดี จะต้องมีการปฏิบัติตัวเป็นแบบอย่างที่ดีช่วยเหลือสังคมด้วยความเสียสละเพื่อส่วนร่วมโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน ไม่ยุ่งเกี่ยวกับอบายมุข มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ไม่เป็นโรคที่ป้องกันได้ และโรคเรื้อรัง เป็นต้น