ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

ปลัดแรงงาน เผยความคืบหน้าแก้กฎหมายประกันสังคม คาดกลางก.พ. นำเข้า กมธ.สนช.ได้ แจงเพิ่มสิทธิประโยชน์ให้ผู้ประกันตนหลายประการ เพิ่มสงเคราะห์บุตรจาก 2 คน เป็น 3 คน เหมาจ่ายคลอดบุตรไม่จำกัดจำนวนครั้ง คุ้มครองกรณีฆ่าตัวตาย กำหนดค่าใช้จ่ายช่วยเหลือเบื้องต้นทางการแพทย์โดยไม่พิสูจน์ถูกผิด

นายนคร ศิลปอาชา 

นายนคร ศิลปอาชา ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า ได้รับรายงานความคืบหน้าของร่างพระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ. 2533 ที่มีการแก้ไขไป 45 มาตราจาก นางปราณิน มุตตาหารัช เลขาธิการประกันสังคมว่า ปัจจุบันมีความก้าวหน้าไปมาก โดยคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกันสังคม ได้พิจารณาครบทั้ง 45 มาตราแล้ว คาดว่าไม่เกินกลางเดือนกุมภาพันธ์ 2558 จะสามารถนำเข้าคณะกรรมาธิการสามัญกิจการ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ได้

ทั้งนี้ การแก้กฎหมายดังกล่าวนับเป็นส่วนสำคัญที่เอื้อต่อการปฏิรูประบบประกันสังคมสำหรับสิทธิประโยชน์ที่ผู้ประกันตนได้สิทธิ์เพิ่มมากขึ้น ภายหลังจากที่ร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้มีผลบังคับใช้ อาทิเช่น

เพิ่มสิทธิด้านสุขภาพในการป้องกันโรค

ขยายระยะเวลาในการยื่นผลประโยชน์ทดแทน 7 ประการ อาทิ กรณีประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย

เพิ่มเรื่องค่าส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรค จากเดิมไม่มี

การกำหนดค่าใช้จ่ายเป็นการช่วยเหลือเบื้องต้นให้แก่ผู้ประกันตนที่ได้รับความเสียหายจากการรับบริการทางการแพทย์ เป็นเงินช่วยเหลือเบื้องต้นที่จะมีให้โดยไม่ดูว่าฝ่ายใดผิดฝ่ายใดถูก โดยหากเป็นการทำงานตอบแทนเป็นนายจ้าง ลูกจ้างกันจริง จะครอบคลุมด้วย

และให้ผู้ประกันตนได้รับเงินช่วยเหลือเบื้องต้น กรณีได้รับความเสียหายในการรับบริการทางการแพทย์ ตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองผู้เสียหายทางการแพทย์

กรณีคลอดบุตร ดำเนินการให้เงินเหมาจ่ายคลอดบุตรโดยไม่จำกัดจำนวนครั้ง

กรณีสงเคราะห์บุตร สามารถรับเงินทดแทนสงเคราะห์บุตรได้ 3 คนจากเดิม 2 คน

กรณีว่างงาน ให้ความคุ้มครองสิทธิประโยชน์กรณีว่างงานแก่ผู้ประกันตน เพิ่มในกรณีนายจ้างหยุดกิจการชั่วคราวเพราะเหตุสุดวิสัยโดยไม่มีการเลิกจ้างจะมีการจ่ายประโยชน์ทดแทนให้เพื่อเป็นการช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนให้ลูกจ้าง

กรณีเจ็บป่วยเรื้อรัง ไม่สามารถจ่ายเงินสมทบได้ ในร่างใหม่กำหนดให้ผู้ที่เจ็บป่วยเรื้อรัง ถึงแม้ไม่มีการสมทบจะได้สิทธิประโยชน์ตรงนี้ขึ้นมา โดยจะได้เงินสงเคราะห์

หากเกิดกรณีเสียชีวิต ผู้จงใจให้ตนเองได้รับบาดเจ็บ กรณีทุพพลภาพและตาย จากเดิมจะไม่คุ้มครองแต่ในร่างฯ ใหม่จะให้มีการคุ้มครอง

กรณีทุพพลภาพ จากเดิมเมื่อแพทย์ตรวจแล้วจะต้องมีการสูญเสียสมรรถภาพในการทำงานตั้งแต่ร้อยละ 50 ขึ้นไปถึงจะเรียกว่าผู้ทุพพลภาพ ร่างฯ ใหม่ไม่ต้องสูญเสียสมรรถภาพในการทำงานถึงร้อยละ 50 จะถือว่าเป็นผู้ทุพพลภาพด้วย แต่ว่าในด้านการจ่ายประโยชน์ทดแทนอาจจะไม่ถึง 50% อาจจะลดหย่อนลงบ้างแต่ถือว่าให้สิทธิ์ผู้เจ็บป่วยที่ไม่ถึงเกณฑ์ มีการขยายระยะเวลาการยื่นขอรับประโยชน์ทดแทนจากเดิมเพียง 1 ปี เป็น 2 ปี ขยายความคุ้มครองไปที่ลูกจ้างส่วนราชการ ชั่วคราวทุกประเภท "ลูกจ้างชั่วคราว" ให้ครอบคลุมถึงลูกจ้างชั่วคราวทั้งหมดให้ได้รับสิทธิประโยชน์ ส่วนการจ้างเหมาบริการ สัญญาปีต่อปี ฯลฯ เป็นต้น

ข้อมูลจากสำนักงานประกันสังคมณ เดือนธันวาคม 2557 มีผู้ประกันตนในระบบประกันสังคม จำนวน 13,625,658 คน แบ่งเป็นผู้ประกันตน มาตรา 33 จำนวน 10,029,777 คน ผู้ประกันตน มาตรา 39 จำนวน 1,124,765 คน และผู้ประกันตน มาตรา 40 จำนวน 2,471,116 คน