ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

พยาบาลวิชาชีพลูกจ้างชั่วคราว สธ. เตรียมเคลื่อนไหวทวงถามความคืบหน้าบรรจุ ขรก.สธ. รอบ 3 จำนวน 7,547 ตำแหน่ง หาก มี.ค.นี้ยังไม่คืบ ขอทวงสัญญาจะมอบเป็นของขวัญปีใหม่ แต่คาดไม่น่ามีปัญหา เหตุเป็นตำแหน่ง ครม.อนุมัติตั้งแต่ปี 53 แถมเดินหน้าบรรจุ ขรก.สธ.ไปแล้ว 2 รอบ

น.ส.ศิริรัตน์ วงษ์บุดดา

น.ส.ศิริรัตน์ วงษ์บุดดา ตัวแทนเครือข่ายพยาบาลวิชาชีพลูกจ้างชั่วคราว กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงการบรรจุข้าราชการรอบ 3 จำนวน 7,547 อัตรา ซึ่งเป็นไปตามมติ ครม.ปี 2553 ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการติดตามความคืบหน้าในการบรรจุ ซึ่งกำหนดการเดิมนั้นจะต้องแล้วเสร็จในเดือนมีนาคมนี้ แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ และไม่ทราบว่าสาเหตุล่าช้าเพราะอะไร เพียงแต่ทราบจากกระทรวงสาธารณสุขว่าได้นำเสนอเรื่องต่อ ครม.ตั้งแต่เดือนมกราคมแล้ว ซึ่งทางเครือข่ายพยาบาลวิชาชีพฯ จะรอดูว่าในเดือนมีนาคมนี้จะมีความคืบหน้าออกมาหรือไม่ หากไม่มีทางตัวแทนเครือข่ายพยาบาลวิชาชีพฯ คงต้องเข้าไปติดตามที่ สธ. และสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) เพื่อขอทราบสาเหตุ

ทั้งนี้มองว่า การบรรจุตำแหน่งข้าราชการกระทรวงสาธารณสุข รอบ 3 นี้ เป็นการบรรจุตามที่ ครม.ได้มีการอนุมัติไปแล้ว และได้มีการบรรจุไปแล้ว 2 รอบ ดังนั้นจึงมองว่าในรอบที่ 3 นี้ก็ไม่น่ามีปัญหา และจากที่ได้ติดตามกรณีที่ ก.พ.อ้างเงื่อนไขการจัดทำยุทธศาสตร์กำลังคน หรือการเพิ่มประสิทธิภาพ ก็เป็นการทวงถามเช่นเดียวกับการบรรจุรอบ 2 ซึ่งทาง สธ.ได้ตอบไปหมดแล้ว จึงอยากให้ ก.พ.เห็นใจ เพราะตรงนี้ถือเป็นขวัญกำลังใจของบุคลากรในระบบ ไม่แต่เฉพาะพยาบาลเท่านั้น แต่รวมทุกวิชาชีพในระบบสาธารณสุข

“ขณะนี้เริ่มมีการถามๆ กันมาบ้างแล้วถึงการบรรจุรอบ 3 เพราะบอกว่าจะเป็นของขวัญปีใหม่ แต่ก็ยังไม่คืบหน้า และเตรียมที่จะชวนกันไปที่ สธ.และ ก.พ. ซึ่งที่บอกว่า ก.พ.มีเงื่อนไขขอข้อมูลเพิ่ม มองว่าการบรรจุรอบ 2 ยังผ่านมาได้ และ สธ.ก็ได้ตอบโจทย์ไปหมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพกำลังคน หรือการกระจายกำลังคนไปยังพื้นที่ขาดแคลน แต่พอมารอบ 3 ก.พ.ก็ถามแบบเดิมอีก ตรงนี้ไม่เข้าใจเช่นกัน” ตัวแทนเครือข่ายพยาบาลวิชาชีพลูกจ้างชั่วคราว สธ. กล่าว และว่า ถ้าถามใจจริงพวกเราคงไม่มีใครอยากเคลื่อนไหว เพราะเสียเวลาและค่าใช้จ่าย แต่ถ้าหากมีปัญหาก็คงต้องติดตาม

ด้าน นางมัลลิกา ลุนจักร์ ประธานสหภาพพยาบาลแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ขณะนี้พยาบาลลูกจ้างชั่วคราวอยู่ระหว่างการรอบรรจุตำแหน่ง ขรก.รอบที่ 3 ซึ่งส่วนตัวไม่ทราบสาเหตุปัญหาของความล่าช้า เนื่องจากเป็นเรื่องการประสานระหว่าง ก.พ.และกระทรวงสาธารณสุข แต่ทั้งนี้ส่วนตัวยอมรับว่าไม่เข้าใจการจำกัดกรอบอัตรากำลังบุคลากรสาธารณสุข ทั้งที่เป็นงานที่จำเป็นต้องใช้กำลังคนเป็นสำคัญ และยังมีความแตกต่างมากเมื่อเปรียบเทียบกับวิชาชีพครูด้วย

ส่วนกรณีที่ทางกระทรวงสาธารณสุขอยู่ระหว่างการจัดทำยุทธศาสตร์กรอบอัตรากำลังคนนั้น นางมัลลิกา กล่าวว่า อยากให้คำนึงถึงบุคลากรที่ทำงานในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) โดยเฉพาะในด้านอัตรากำลังคน ภาระงานและค่าตอบแทน เนื่องจากการทำงานของพยาบาล รพ.สต.จะไม่สามารถนำค่าเอฟทีอีมาคำนวณเหมือนกับคนที่ทำงานในโรงพยาบาลได้ ซึ่งสร้างความเหลื่อมล้ำและกระทบต่อขวัญกำลังใจคนทำงาน นอกจากนี้ยังสวนทางกับนโยบายที่เน้นการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรค เพราะส่วนใหญ่มักจะเน้นทุ่มเททรัพยากรในด้านการรักษาที่โรงพยาบาลมากกว่า ซึ่งถือว่าไม่ถูกต้อง