ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

สวรส.วิจัยอัตรากำลังคนสุขภาพในหน่วยงานระดับภูมิภาค รองรับนโยบายปฏิรูปสธ. ด้านรองวชิระเผย โครงสร้างบริหารระดับเขตสุขภาพอยู่ระหว่างการพิจารณาของ ก.พ.ร. ก่อนนำเสนอ ครม.เพื่อออกเป็นกฎกระทรวง ส่วนการจัดวางอัตรากำลังคนต้องตกลงระหว่าง ก.พ.และสธ. คาด 2 เดือนเห็นความคืบหน้า ส่วนโครงสร้าง สสจ. สสอ. ให้แต่ละพื้นที่ไปทำกรอบมาก่อน และต้องรอผลงานวิจัยจาก สวรส.ก่อน

นพ.วชิระ เพ็งจันทร์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวในการประชุมระดมสมองเรื่อง “การศึกษาการวิเคราะห์งาน การจัดอัตรากำลังคน และความก้าวหน้าของบุคลากรในหน่วยงานบริหารสาธารณสุขระดับเขต จังหวัดและอำเภอ” ที่สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) ว่า ขณะนี้โครงสร้างการบริหารระดับเขตสุขภาพ อยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) ก่อนนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรี(ครม.) เพื่อออกเป็นกฎกระทรวง ทั้งนี้ เมื่อผ่านความเห็นชอบจากทาง ครม.แล้ว จะสามารถเห็นโครงสร้างการบริหารของเขตบริการสุขภาพ อย่างไรก็ตามในส่วนของการวิเคราะห์งานสำหรับการจัดวางอัตรากำลัง จะต้องมีการตกลงกันระหว่างสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.)  กับกระทรวงสาธารณสาธารณสุข (สธ.) โดยเฉพาะการวางตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญระดับต่างๆ ลงไป คาดว่าภายใน 2 เดือนจะมีความคืบหน้ามากขึ้น

“ส่วนของโครงสร้างปัจจุบันของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) และสำนักงานสาธารณสุขอำเภอ (สสอ.) ในระหว่างนี้ได้ให้แต่ละพื้นที่ไปบริหารจัดการและตกลงกรอบโครงสร้างแบบหลวมๆ กันเองก่อน ซึ่งโครงสร้างและอัตรากำลังในส่วนของหน่วยบริหารนั้นจะมีความเกี่ยวข้องกับทาง ก.พ. และยังคงต้องรอข้อเสนอจากงานวิจัยของ สวรส. เพื่อพิจารณาว่าโครงสร้างใหม่กับโครงสร้างเดิมนั้นจะมีความแตกต่างกันอย่างไร อย่างเช่น ในบางพื้นที่ได้เพิ่มกลุ่มงานเข้ามาในโครงสร้างใหม่ เช่น งานอนามัยสิ่งแวดล้อมและอาชีวอนามัย ที่เป็นข้อเสนอที่ทางกรมอนามัยต้องการให้เกิดขึ้น กลุ่มงานควบคุมโรค ที่แบ่งเป็น 2 กลุ่มงานคือ กลุ่มงานโรคติดต่อ และกลุ่มงานโรคไม่ติดต่อ ซึ่งควบรวมกับงานด้านสุขภาพจิตไว้ด้วย นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มงานด้านแพทย์แผนไทยเพิ่มเข้ามา ซึ่งเป็นนโยบาย สธ. ที่ต้องการเห็นการแพทย์แผนไทยก้าวหน้าทัดเทียมการแพทย์แผนปัจจุบัน” รองปลัดสธ. กล่าว

นพ.วชิระ กล่าวด้วยว่า งานวิจัยจาก สวรส. ที่อยู่ระหว่างการศึกษาและวิเคราะห์เพิ่มเติมนั้นเมื่อสมบูรณ์แล้ว เชื่อว่าจะช่วยในการสนับสนุนทางวิชาการ และใช้ประกอบในการตัดสินใจของผู้บริหาร กสธ. ก่อนเสนอต่อ ก.พ. ต่อไป

ด้าน ดร.จรวยพร ศรีศศลักษณ์ รอง ผอ.สวรส. กล่าวว่า ขณะนี้ทาง สวรส. กำลังศึกษาวิจัยการวิเคราะห์งาน การจัดอัตรากำลังคน และความก้าวหน้าของบุคลากรในระดับบริหารในหน่วยงานบริหารสาธารณสุขภูมิภาค (เขต จังหวัด อำเภอ) หลังจากที่กระทรวงสาธารณสุขมีนโยบายการปฏิรูป และการเปลี่ยนแปลงบทบาท จากการเป็นผู้ซื้อบริการ มาเป็นผู้ให้บริการ และผู้กำกับติดตามของหน่วยงานในส่วนภูมิภาค ซึ่งมีแนวโน้มว่า การเปลี่ยนแปลงของการอภิบาลระบบสุขภาพจะส่งผลกระทบต่อบทบาท ภาระหน้าที่ และรูปแบบการทำงานของบุคลากรในอนาคต จึงต้องมีการวางแผนบริหารจัดการที่เหมาะสม

นพ.ปิยะ หาญวรวงศ์ชัย นักวิจัย สวรส. กล่าวว่า  สำหรับกระบวนการจัดทำข้อเสนอ ได้มาจากการเก็บรวมรวมข้อมูล โดยการทบทวนเอกสาร จัดทำแบบสอบถามและสัมภาษณ์ จากนั้นทำการวิเคราะห์งาน หน้าที่และความรับผิดชอบ และภาระงานของบุคลากรในกลุ่มงานต่างๆ ในหน่วยบริหารส่วนภูมิภาค โดยทำการศึกษาในพื้นที่เครือข่ายบริการที่ 1 คือ ในจังหวัดลำพูนกับเชียงใหม่ และเครือข่ายบริการที่ 5 ในจังหวัดราชบุรีกับสมุทรสงคราม

อย่างไรก็ตาม ทางคณะนักวิจัยอยู่ระหว่างการวิเคราะห์ข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อใช้ในการสังเคราะห์ข้อเสนอสำหรับใช้ในกำหนดอัตรากำลังของบุคลากรของหน่วยบริหารสาธารณสุขในส่วนภูมิภาคของบุคลากรที่ระดับต่างๆ โดยพิจารณาจำนวน ระดับตำแหน่ง และคุณลักษณะ โดยหลังจากได้ข้อมูลเพิ่มเติมจากผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงสาธารณสุขในการกำหนดทิศทางและบทบาทของสำนักงานเขต สสจ. สสอ. แล้วจะจัดทำทางเลือกเชิงนโยบาย โดยแต่ละทางเลือกอาจระบุอัตรากำลังของหน่วยบริหารแต่ละระดับว่าควรเป็นเท่าไร ก่อนจะนำเสนอต่อกระทรวงสาธารณสุขเพื่อใช้ประโยชน์ต่อไป