ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

กรมควบคุมโรคสำรวจทัศนคติความคิดเห็นของประชาชนต่อโรคไข้หวัดใหญ่ พบในปี 2558 นี้ มีประชาชนอยากฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่เพียงร้อยละ 33 ลดลงจากปี 2557 (ร้อยละ 73) ซึ่งลดลงถึงร้อยละ 40 และประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 43.9 ไม่แน่ใจว่าอยากฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ รองลงมาร้อยละ 33 อยากฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่

วันนี้ (31 มีนาคม 2558) ที่กรมควบคุมโรค นพ.โสภณ เมฆธน อธิบดีกรมควบคุมโรค พร้อม .นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ผู้อำนวยการศูนย์ปฎิบัติการโรคทางสมอง โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ และผู้บริหารจากกรมควบคุมโรค ร่วมแถลงข่าวผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน ดีดีซีโพล (DDC Poll) พร้อมเสวนา DDC Forum เรื่อง “รู้จักและเข้าใจโรคไข้หวัดใหญ่”

นพ.โสภณ กล่าวว่า กรมควบคุมโรคได้สำรวจทัศนคติความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับโรคและภัยสุขภาพ ดีดีซีโพล (DDC Poll) เรื่อง “รู้จักและเข้าใจโรคไข้หวัดใหญ่” กลุ่มเป้าหมายทั้งหมด 3,024 ตัวอย่าง ช่วงอายุ 15 ปีขึ้นไป ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และส่วนภูมิภาค 4 ภาค รวม 24 จังหวัด โดยสอบถามบริเวณแหล่งชุมชน ตลาด ห้างสรรพสินค้าหรือบริเวณสถานที่ราชการ ตลอดจนหมู่บ้านนอกเขตเทศบาล สำรวจระหว่างวันที่ 9–20 มีนาคม 2558 พบว่า 1.ประชาชนร้อยละ 31.9 เข้าใจว่าโรคไข้หวัดใหญ่ ติดต่อกันจากการไอและจามรดกัน 2.ประชาชนร้อยละ 31.5 และ 28.1 เข้าใจถูกต้องว่าถ้ามีอาการป่วยจะต้องปฎิบัติตัว คือ รีบไปพบแพทย์เพื่อให้ได้รับยาต้านไวรัสไข้หวัดใหญ่ และหยุดเรียน/หยุดงาน พักผ่อนอยู่บ้าน ตามลำดับ 3.ประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 60.4 จะสวมหน้ากาก เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อโรคให้ผู้อื่น หากตัวเองป่วยและมีอาการหวัด เช่น ไอ จาม มีน้ำมูก 4.ประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 37.8 รู้สึกเฉยๆ กับผู้ที่สวมหน้ากากป้องกันโรค รองลงมาร้อยละ 28.9 รู้สึกน่านับถือ

5.ประชาชนร้อยละ 53.2 ต้องการให้เจ้าของบริการหรือสถานที่ เช่น สายการบิน รถไฟฟ้า รถโดยสาร รถแท็กซี่ จัดเตรียมหน้ากากป้องกันโรค ไว้ให้กับผู้ที่มีอาการไอ มีน้ำมูก 6.ประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 43.9 ไม่แน่ใจว่าอยากฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ รองลงมาร้อยละ 33 อยากฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ และ 7.ประชาชนเห็นว่านอกจากกลุ่มเสี่ยงแล้ว อยากให้ฉีดวัคซีนแก่ประชาชนกลุ่มอื่นๆ ดังนี้ นักเรียน/นักศึกษา ร้อยละ 31 ครู/อาจารย์ 24.4 และทหารเกณฑ์ ร้อยละ 18.6

จากการวิเคราะห์ข้อมูลที่สำคัญ พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ที่รู้สึกเฉยๆ กับผู้ที่สวมหน้ากากป้องกันโรค คือ เพศหญิง แต่พบว่า ประชาชนที่รู้สึกน่านับถือ เพิ่มจากปี 2557 ร้อยละ 21.22 เป็นร้อยละ 28.9 เพิ่มขึ้นมาร้อยละ 7.68, อีกประเด็นคือ การอยากฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ ในปี 2558 นี้ มีประชาชนอยากฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่เพียงร้อยละ 33 ลดลงจากปี 2557 (ร้อยละ 73) ซึ่งลดลงถึงร้อยละ 40 แต่ในกลุ่มตัวอย่างอายุ 65 ปีขึ้นไป ซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงที่ต้องฉีดวัคซีน อยากฉีดมากกว่าอายุ 15-64 ปี ร้อยละ 2

นพ.โสภณ กล่าวต่อ ในปีนี้เน้นรณรงค์ให้ประชาชนยึดหลักกินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ ออกกำลังกาย พักผ่อนเพียงพอ และฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ในกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงหากป่วยแล้วอาการจะรุนแรงกว่าคนทั่วไป 4 กลุ่ม ได้แก่ ผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไป หญิงตั้งครรภ์อายุครรภ์ 4 เดือนขึ้นไป เด็กอายุ 6 เดือนถึง 2 ขวบ และผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ได้แก่ โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง ไตวาย หอบหืด เบาหวาน โรคมะเร็งที่อยู่ระหว่างทำเคมีบำบัด รวมทั้งการป้องกันในกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ และผู้ที่มีหน้าที่กำจัดสัตว์ปีก ซึ่งมีโอกาสเสี่ยงติดเชื้อสูงกว่ากลุ่มอื่น ส่วนวัคซีนไข้หวัดใหญ่จะเริ่มฉีดในกลุ่มเสี่ยงตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึงเดือนกรกฎาคม จำนวน 3.5 ล้านโด๊ส

ที่สำคัญต้องให้ผู้ป่วยไข้หวัด หยุดเรียน/หยุดงาน พักผ่อนที่บ้านจนกว่าจะหาย ใส่หน้ากากป้องกันโรค ล้างมือบ่อยๆ โดยอาการของโรคไข้หวัดใหญ่ เริ่มจากมีไข้สูงอย่างเฉียบพลัน ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามตัว คัดจมูก น้ำมูกไหล เจ็บคอ ไอแห้งๆส่วนประชาชนที่มีอาการรุนแรง เช่น เหนื่อยหอบ หรืออาการไม่ดีขึ้นภายใน 48 ชั่วโมง ขอให้ไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลใกล้บ้าน หากประชาชนมีข้อสงสัยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมสายด่วนกรมควบคุมโรค โทร 1422