ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

‘นพ.สุรเชษฐ์’ เผยการทำงาน สธ.-สปสช. มีทิศทางดีขึ้น ร่วมมือกันแก้ไขปัญหา พร้อมสร้างระบบกำกับติดตามสถานะการเงินของ รพ.เพื่อให้ทราบสภาพปัญหาเร็วขึ้น แก้ไขปัญหาได้ตรงจุด เผยปี 59 นอกจากได้งบรายหัวเพิ่ม 10,000 ล้านบาทแล้ว ยังได้งบสำหรับ รพ.ทุรกันดารเพิ่มอีก 1,000 ล้านบาท และงบสำหรับผู้สูงอายุ 600 ล้านบาท

นพ.สุรเชษฐ์ สถิตนิรามัย 

เมื่อวันที่ 21 เม.ย. 58 ที่โรงแรมรามาการ์เด้นส์ กรุงเทพฯ นพ.สุรเชษฐ์ สถิตนิรามัย รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) รักษาราชการแทนปลัด สธ. กล่าวว่า ขณะนี้ภาพรวมการทำงานร่วมกันระหว่าง สธ.และ สปสช.มีทิศทางที่ดีขึ้นตามลำดับ มีทั้งปัญหาที่ต้องแก้ไขร่วมกัน ก็จัดการร่วมกัน ส่วนที่เป็นปัญหาของ สธ. ก็แก้ไขในฝั่งของ สธ. ส่วนที่เป็นปัญหามาจาก สปสช. ต้องแก้ฝั่งสปสช. อันนี้เมื่อหันหน้าเข้าหากัน แม้บางเรื่องจะแก้ไม่ได้ทันที แต่ก็มีทิศทางที่ดีขึ้น ขณะเดียวกัน ในส่วนของการมีส่วนร่วมของ รพ.ในการแก้ปัญหาต่างๆ ก็สร้างการมีส่วนร่วมของ รพ.ให้มากขึ้น เนื่องจากเหตุการณ์เดียวกัน ก็อาจจะมีมุมมองที่ไม่เหมือนกัน จึงต้องเพิ่มการมีส่วนร่วมของ รพ. นอกจากนั้น ในส่วนของระบบ monitoring หรือระบบกำกับติดตามสถานะการเงินของแต่ละ รพ.นั้น สธ.ก็จะพัฒนาให้ดีขึ้นกว่าเดิม จะพัฒนาระบบเพื่อให้ทราบสภาพปัญหาได้เร็วขึ้น สามารถวินิจฉัยได้ว่า การขาดทุนนั้นมีสมมติฐานจากโรคอะไร เราจะได้ให้ยาได้ถูก

นพ.สุรเชษฐ์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ปัญหาการขาดสภาพคล่องของ รพ.สังกัด สป.สธ.นั้น ต้นเหตุจริงๆ คือ งบประมาณปี 58 เท่ากับปี 57 งบประมาณปี 56 เท่ากับปี 55 แต่ขณะที่ผู้รับบริการเพิ่มขึ้นทุกวัน ค่าใช้จ่าย รพ.ก็เพิ่มขึ้นทุกวัน เป็นหนึ่งในหลายๆ สาเหตุ แต่ในปีงบประมาณ 59 ที่จะถึงนี้ ก็ดีกว่าปี 58 เบื้องต้นที่เพิ่งผ่าน ครม.เศรษฐกิจ ก็ได้เงินเพิ่มขึ้น 10,000 ล้านบาท แล้วก็ได้เงินอีกจำนวนหนึ่งซึ่งอยู่นอกงบเหมาจ่ายรายหัว เพื่อช่วยเหลือ รพ.ที่อยู่พื้นที่ห่างไกล ในถิ่นทุรกันดาร จากเดิมที่ได้ 2 ก้อน คือ 3,000 ล้านบาท และ 400 ล้านบาท ในปี 2559 นี้ ก็จะได้เป็น 3,000 ล้านบาทเดิม แต่อีกก้อนที่เคยได้ 400 ล้านบาท ก็ได้เพิ่มเป็น 1,400 ล้านบาท ซึ่งจะแก้ปัญหาการขาดสภาพคล่องของ รพ.ได้ ส่วนงบประมาณอีกจำนวนหนึ่งที่ทำให้การดูแลมีทิศทางที่ดีขึ้น คือ งบประมาณสำหรับการดูแลผู้สูงอายุอีก 600 ล้านบาท สำหรับการสร้างสังคมเกื้อกูลซึ่งกันและกัน อันนี้เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ ระบบยั่งยืน โดยเป็นการทำงานบูรณาการร่วมกัน ระหว่าง อปท. และองค์กรต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงอาสาสมัครต่างๆ มาร่วมกันทำเพื่อรองรับการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุของไทย

นพ.วินัย สวัสดิวร เลขาธิการสปสช. กล่าวว่า ระยะยาว ในการแก้ไขปัญหานั้น ที่ผ่านมา รมว.สธ.ได้แต่งตั้ง คณะกรรมการพิจารณาปัญหาสถานะทางการเงินและปรับปรุงระบบการเงินและบัญชีของหน่วยบริการในสังกัด สป.สธ. ที่มี นส.นวพร เรืองสกุล เป็นประธาน ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการเพื่อหาแนวทางแก้ไข และเพื่อให้ทราบว่า ปัญหาที่ทำให้ รพ.มีรายได้น้อยกว่ารายจ่ายเกิดจากอะไร แต่ในกลไกการจัดสรรงบประมาณนั้น โดยรวมเราก็พยายามแก้ไขปัญหาตรงนี้ ซึ่งในทุกครั้งทุกปีก็จะดู รพ.ที่มีต้นทุนสูงอยู่แล้ว โดยเฉพาะในกลุ่ม รพ.ในถิ่นทุรกันดาร เขตเสี่ยงภัย ชายแดน กลไกการเงินเบื้องต้นก็สนับสนุนอยู่แล้ว เพื่อป้องกันไม่ให้ รพ.ประสบภาวะขาดสภาพคล่อง นอกจากนั้นที่สำคัญ คือการมีระบบกำกับติดตามร่วมกันระหว่าง สปสช. และ สธ.ตามที่ รักษาราชการปลัด สธ. ระบุ เพื่อร่วมมือในการแก้ไขปัญหา และทำให้การทำงานระยะยาวให้เห็นผล