ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

รมช.สธ.แจงข้อเท็จจริงกรณีพบชิ้นส่วนมนุษย์ในถุงดำที่ติดชื่อโรงพยาบาลในภาคเหนือที่สุสานหายยา จ.เชียงใหม่ ว่า เป็นชิ้นเนื้อที่ส่งตรวจพิสูจน์ทางการแพทย์ และรอทำลายทิ้งตามระบบปกติ ซึ่งชิ้นเนื้อทั้งหมดผ่านการฆ่าเชื้อแล้ว สามารถทำได้ไม่ผิดกฎหมาย

จากกรณีที่ตำรวจเข้าตรวจค้นห้องใต้ฐานเมรุ ในสุสานหายยา จังหวัดเชียงใหม่ พบถุงดำบรรจุชิ้นส่วนมนุษย์และพบชิ้นส่วนมนุษย์ถุงเล็กพร้อมติดป้ายชื่อโรงพยาบาลเชียงคำ จังหวัดพะเยาอยู่นั้น    

ความคืบหน้าในเรื่องดังกล่าว 24 เม.ย.58 นพ.สมศักดิ์ ชุณหรัศมิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ ว่า  ได้ให้ผู้ตรวจราชการประจำเขตสุขภาพที่ 1 ตรวจสอบและได้รับรายงานว่าชิ้นเนื้อดังกล่าวน่าจะเป็นชิ้นเนื้อที่โรงพยาบาลเชียงคำ ส่งตรวจพิสูจน์ทางการแพทย์ ซึ่งส่งตรวจที่คลินิกสวนดอกพยาธิ เชียงใหม่ประมาณร้อยละ 98 และที่บริษัทเศรษฐศิลป์ เชียงใหม่ ร้อยละ 2 และปฏิบัติตามมาตรฐานสากล โดยหากเป็นชิ้นเนื้อชิ้นใหญ่จะใส่ถุงพลาสติก 2 ชั้น ติดสติกเกอร์ที่มีชื่อโรงพยาบาลกำกับ หากเป็นเนื้อชิ้นเล็กจะบรรจุในขวดพลาสติก การนำส่งจะมีใบนำส่ง ระบุชื่อ – สกุล เลขประจำตัวผู้ป่วย และชื่อแพทย์ผู้นำส่งทุกครั้ง  

นพ.สมศักดิ์ กล่าวต่อไปว่า ในกรณีของรกและชิ้นเนื้อที่ไม่ได้ส่งตรวจทางการแพทย์ จะมีระบบกำจัดของโรงพยาบาล ซึ่งมาตรการป้องกันปัญหาต่อไปนี้ ทางโรงพยาบาลเชียงคำจะให้หน่วยงานที่ได้ส่งชิ้นเนื้อไปตรวจ   ส่งหลักฐานการทำลายชิ้นเนื้อให้ทราบทุกครั้งที่มีการเรียกเก็บค่าใช้จ่าย

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบไปยังคลินิกสวนดอกพยาธิ เชียงใหม่ ได้รับการชี้แจงข้อเท็จจริงว่า ชิ้นเนื้อที่เหลือจากการตรวจพิสูจน์ดังกล่าว ทางคลินิกจะนำส่งเผาที่สุสานหายยา เชียงใหม่ เนื่องจากต้นทุนค่าใช้จ่ายถูกและสามารถทำได้โดยไม่ผิดกฎหมาย ชิ้นเนื้อที่ส่งมาเพื่อรอการเผาทั้งหมดนั้นผ่านการฆ่าเชื้อแล้ว ประชาชนไม่ต้องกังวลเรื่องการติดเชื้อแต่อย่างใด