ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

เครือข่ายหมออนามัย ประกาศเดินหน้าปกป้องเด็กไทยห่างไกลบุหรี่ ร่วมงานเสวนาเผยความลับอุตสาหกรรมยาสูบ "บริษัทบุหรี่ทำอะไร เพื่อให้เด็กติดบุหรี่ง่ายขึ้น” จัดโดยมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ พร้อมเชิญชวนประชาชนคนไทยร่วมลงชื่อสนับสนุน พ.ร.บ.ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบฉบับใหม่ เผยขณะนี้มีรายชื่อสนับสนุนแล้วกว่า 1 ล้านคน คาดว่าจะบรรลุเป้าหมาย 10 ล้านเสียงก่อนวันงดสูบบุหรี่โลก 31 พฤษภาคมนี้

เมื่อวันที่ 20 พ.ค.58 ณ โรงแรมเดอะสุโกศล ถนนศรีอยุธยา กรุงเทพฯ ในงานเสวนาสื่อมวลชน เรื่อง “บริษัทบุหรี่ทำอะไร เพื่อให้เด็กติดบุหรี่ง่ายขึ้น” จัดโดยมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ โดยมี รศ.นพ.สุริยเดว ทรีปราตี ผู้อำนวยการสถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ และนายธาดา วรรธนปิยกุล ประธานมูลนิธิเครือข่ายหมออนามัย ร่วมเวทีเสนา โดยมีผู้สนใจร่วมประชุมกว่า 100 คน

รศ.นพ.สุริยเดว ทรีปาตี อำนวยการสถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า ทั่วโลกมีเด็กและเยาวชนติดบุหรี่ใหม่วันละ 82,000 - 99,000 คน โดยข้อมูลปี 2554 ประเทศไทยมีเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ติดบุหรี่แล้ว 4 แสนคน และปี 2557 พบเด็กไทยติดบุหรี่ใหม่เพิ่มขึ้นปีละ 200,000 คน นอกจากนี้ยังพบว่าบริษัทบุหรี่ได้มีกลยุทธ์ที่หลากหลาย รวมทั้งออกแบบผลิตภัณฑ์เพื่อดึงดูดนักสูบหน้าใหม่ให้เกิดการเสพติดง่ายและเลิกยากมากขึ้น

“การเพิ่มระดับนิโคติน การเติมแอมโมเนียเพื่อเร่งความเร็วถึงสมองเร็วขึ้น เพิ่มความเย้ายวน เติมความหวานการสูบด้วยช๊อคโกแลต ซึ่งเมื่อบุหรี่ถูกสูบจะกลายเป็นสารพิษและสารก่อมะเร็ง ตลอดจนการแต่งกลิ่น สัมผัสและภาพลักษณ์ ลดความระคายเคือง ทำให้เริ่มสูบง่ายขึ้น จึงต้องเพิ่มความระมัดระวังและร่วมกันปกป้องเด็กและเยาวชนไทยไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของบริษัทบุหรี่” รศ.นพ.สุริยเดว

ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ กล่าวว่า การสูบบุหรี่เพิ่มความเหลื่อมล้ำในสังคมไทย ทำให้คนจนยิ่งยากจนเพิ่มขึ้น โดยข้อมูลสำรวจในปี 2554  พบคนไทยที่ยากจนที่สุดที่มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน 2,189 บาท เสียเงินซื้อบุหรี่ที่ผลิตจากโรงงาน  548  บาทต่อเดือน และคนไทยฐานะยากจนที่มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน 6,279 บาท  เสียเงินซื้อบุหรี่ที่ผลิตจากโรงงาน  507 บาทต่อเดือน ขณะที่เด็กอายุ 15-18 ปี 4 แสนคน เสียเงินค่าซื้อบุหรี่ปีละ 1,800 ล้านบาท สำหรับข้อมูลล่าสุด ปี 2557 พบว่าประชากรกลุ่มที่ยากจนที่สุด และที่ยากจนมี 3.1 ล้านคนที่สูบบุหรี่ และเสียค่าซื้อบุหรี่ไป 7674 ล้านบาทต่อปี            

นายธาดา วรรธนปิยกุล ประธานมูลนิธิเครือข่ายหมออนามัย กล่าวว่า ขณะนี้มูลนิธิเครือข่ายหมออนามัยและภาคีเครือข่าย 721 องค์กร รวมทั้ง อสม.ทั่วประเทศ กำลังเร่งขับเคลื่อนดำเนินการรวบรวมรายชื่อผู้สนับสนุนพระราชบัญญัติควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบฉบับใหม่เพื่อให้ได้จำนวน 10 ล้านรายชื่อเพื่อเป็นการแสดงพลังร่วมสร้างความดี  ปกป้องลูกหลานคนไทย จากการตกเป็นเหยื่อของบริษัทบุหรี่ด้วยการลงชื่อสนับสนุน พ.ร.บ.ฉบับใหม่นี้ โดยผ่านช่องทางคือ 1. ลงชื่อผ่านแบบฟอร์มที่ อสม.ทั่วประเทศ 2. ที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล/สถานบริการสาธารณสุขสังกัดกระทรวงสาธารณสุขทั่วประเทศ 3. ที่สำนักงานสาธารณสุขอำเภอ/ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทุกแห่ง  หรือ ลงชื่อผ่านช่องทางออนไลน์  http://vote4tobaccolaw.com/  ซึ่งขณะนี้ได้มีผู้ร่วมลงชื่อสนับสนับแล้วกว่า 1,094,198 คน คาดว่าจะบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ก่อนวันงดสูบบุหรี่โลก 31 พฤษภาคมที่จะมาถึงนี้

เรื่องที่เกี่ยวข้อง