ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

เว็บไซต์ไทยรัฐ : ผอ.องค์การเภสัชกรรมโวผลงานผลิตยา “ซิเดกร้า” 4 แสนเม็ด ขายหมดเกลี้ยงใน 20 นาที ยอดสั่งซื้อไม่เคยขาดแถมช่วยสกัดปัญหายาเพิ่มสมรรถภาพทางเพศปลอมได้ ชี้ผลดีช่วยกอบกู้ศักดิ์ศรีของมนุษยชาติทำครอบครัวมีความสุข คาด ก.ค.นี้เปิดโรงงานผลิตยารังสิตจะรองรับความต้องการยาได้ครอบคลุมภาครัฐและเอกชน

เว็บไซต์ไทยรัฐรายงานว่า เมื่อวันที่ 25 พ.ค. นพ.นพพร ชื่นกลิ่น ผอ.องค์การเภสัชกรรม เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่องค์การเภสัชกรรม (อภ.) ผลิตยาซิเดกร้า หรือยาแก้ปัญหาหย่อนสมรรถภาพทางเพศ ออกมาจำหน่ายประมาณเกือบ 3 ปี พบว่าปัญหาการปลอมยาที่ช่วยแก้ปัญหาหย่อนสมรรถภาพทางเพศ ที่พบว่ามีการปลอมเป็นอันดับ 1 ลดลงอย่างมาก เพราะคนส่วนใหญ่หันมาใช้ยาซิเดกร้าของ อภ.แทน ทำให้ช่วยลดอันตรายจากการรับประทานยาปลอมลงได้ นอกจากนี้ราคายาที่แต่เดิมมีราคาสูงถึงกล่องละประมาณ 1,600 บาท ก็ลดราคาลงมาเกือบร้อยละ 50 และจากการที่ อภ. ลงสำรวจตลาดพบว่าผลข้างเคียงจากการรับประทานซิเดกร้าของ อภ. น้อย และมีข้อดีคือยามีการออกฤทธิ์ช้าแต่อยู่ได้ทนนาน ถือเป็นการบรรลุจุดมุ่งหมายเดิมของ อภ.ที่ต้องการทำให้ประชาชนที่จำเป็นต้องใช้ยาดังกล่าวเข้าถึงยามากขึ้น เพราะราคา 100 กรัมอยู่ที่ 150 บาทเท่านั้น จนทำให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่จะรับประทานยาดังกล่าวได้ต้องมีใบสั่งจากแพทย์ เพราะหากรับประทานยาดังกล่าวร่วมกับยาบางชนิด เช่น ยาความดันโลหิตสูง และโรคหัวใจ อาจได้รับอันตรายได้

ผอ.องค์การเภสัชกรรม กล่าวต่อว่า ยาซิเดกร้าถึงแม้ไม่ใช่ภารกิจหลักของ อภ.ที่จะผลิต เนื่องจากภารกิจหลักของ อภ.เป็นการผลิตยาเอดส์ มะเร็ง และเบาหวาน มากกว่า และเมื่อไม่นานมานี้ อภ.มีปัญหาเรื่องการผลิตยาจึงต้องลดการผลิตยาซิเดกร้าลงทำ ให้ยาซิเดกร้าขาดตลาด แต่เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาสามารถกลับมาผลิตได้ตามปกติ ซึ่งพบว่ายาซิเดกร้าของ อภ.ที่ผลิตออกมาประมาณ 3-4 แสนเม็ดนั้น มีตัวแทนจำหน่ายมารับไปขายต่อจนยาที่ผลิตออกมานั้นหมดภายใน 20 นาที ทั้งนี้ตามหลักแล้ว อภ.จะผลิตยาป้อนให้กับภาครัฐก่อนภาคเอกชน แต่ต่อไปเมื่อโรงงานของ อภ.ที่รังสิต เปิดให้บริการได้ อภ.จะสามารถรองรับได้ทั้งภาครัฐและเอกชน คาดว่าโรงงานผลิตยารังสิตจะสามารถเปิดการผลิตได้ภายในเดือน ก.ค.นี้

“การผลิตซิเดกร้าออกมาจำหน่ายถือเป็นเรื่องที่ดีทำให้ครอบครัวที่มีปัญหาด้านการหย่อนสมรรถภาพทางเพศกลับมามีความสุขอีกครั้ง เพราะเรื่องแบบนี้ถือเป็นศักดิ์ศรีของมนุษยชาติ ส่วนเป้าหมายต่อไปของ อภ. คือภายใน 3-4 เดือนข้างหน้า อภ.จะต้องมียาไปวางจำหน่ายในระดับอำเภอให้ได้ เนื่องจากปัจจุบันยังไม่เกิดความเท่าเทียมกัน เพราะคนที่อาศัยอยู่ในตัวอำเภอต้องมาซื้อยาที่ในตัวจังหวัด ดังนั้น อภ.พยายามหาทางแก้ปัญหานี้ และเชื่อว่าเมื่อโรงงานรังสิตเปิดก็จะขยายไปส่งที่ในตัวอำเภอได้” นพ.นพพรกล่าว