ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

ศ.ธานินทร์ กรัยวิเชียร องคมนตรี ประชุมสามัญประจำปี 2558 กรรมการมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช เนื่องในวาระครบรอบ 38 ปี ตั้งคณะกรรมการทศวรรษที่ 5 ของโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช  วางแนวทางการพัฒนา ทั้งต่อผู้ป่วย ญาติผู้ป่วย เจ้าหน้าที่ แพทย์ พยาบาล และการบริหารจัดการ  โดยมุ่งเน้นการทำงานที่มีใจเอื้ออารีต่อผู้ป่วยและญาติ เป็นหัวใจสำคัญ 

วันนี้ (28 พฤษภาคม 2558) ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี ศาสตราจารย์ธานินทร์ กรัยวิเชียร องคมนตรี ประธานกรรมการมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ศ.นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ประชุมสามัญประจำปี 2558 กรรมการมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช

ศ.ธานินทร์ กล่าวว่าโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ได้ก่อกำเนิดจากความศรัทธาของประชาชนต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และได้รับพระราชทานนามว่า “โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช” จนถึงปัจจุบันได้ดำเนินการครบ 38 ปี เป็นที่พึ่งของประชาชนที่ยากไร้ ตรงตามพระราชดำรัสสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามกุฎราชกุมาร องค์นายกกิตติมศักดิ์มูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชที่ว่า “ทุกคนที่ทำงานให้แก่สมเด็จพระยุพราช จะต้องไม่ลืมว่าโรงพยาบาลนี้กำเนิดขึ้นจากความมุ่งปรารถนาอันแรงกล้าของคนไทยทั่วราชอาณาจักร ที่ต้องการเห็นผู้ที่อยู่ในท้องถิ่นทุรกันดารทุกหนแห่งได้รับความอาใจใส่รักษาพยาบาลเป็นอย่างดี ให้ปลอดภัยจากความเจ็บไข้ โดยทั่วถึงเสมอกัน”

ที่ผ่านมา การดำเนินงานของโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ได้รับการสนับสนุนอย่างดีจากรัฐบาล องค์กรทั้งภาครัฐและเอกชน รวมทั้งภาคประชาชนในพื้นที่ที่โรงพยาบาลตั้งอยู่ สำหรับการดำเนินงานทศวรรษที่ 5 ของโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช จะได้มีการทบทวนผลการดำเนินงานที่ผ่านมา รวมทั้งแนวทางพัฒนาต่อผู้ป่วย ญาติผู้ป่วย เจ้าหน้าที่แพทย์ พยาบาล และการบริหารจัดการ ในโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช โดยมุ่งเน้นการทำงานที่มีจิตใจเอื้ออารีต่อผู้ป่วยและญาติ เป็นหัวใจสำคัญ และจะได้ตั้งคณะกรรมการวางแนวทางการทำงานทศวรรษที่ 5 ของโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช โดยกระทรวงสาธารณสุขรับดำเนินการ

ด้าน ศ.นพ.รัชตะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ประเทศไทยให้การดูแลสุขภาพถ้วนหน้าแก่ประชาชน เพราะโครงสร้างการบริการที่เข้มแข็งของกระทรวงสาธารณสุขที่มีหน่วยบริการตั้งแต่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล โรงพยาบาลชุมชนและโรงพยาบาลจังหวัด โดยขณะนี้ได้เร่งพัฒนาระบบบริการปฐมภูมิที่อยู่ใกล้ชิดประชาชนให้เข้มแข็ง ให้เป็นที่พึ่งประชาชนได้  ในส่วนของโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ที่เป็นโรงพยาบาลในระดับอำเภอ ก็ได้แสดงบทบาทและภารกิจที่ประชาชนเห็นถึงความแตกต่างเป็นต้นแบบของโรงพยาบาลปฐมภูมิ ตอบสนองความต้องการของประชาชนในเรื่อง “การเข้าถึง คุณภาพ และคุณธรรม” 

สำหรับเรื่องการเข้าถึงบริการเป็นเรื่องที่สำคัญ ขณะนี้การคมนาคมสะดวก ประชาชนเดินทางเข้าถึงโรงพยาบาลได้สะดวกขึ้น สิ่งที่ตามมาคือความแออัด ดังนั้นจึงได้มีนโยบายนำบริการเชิงรุกไปถึงประชาชนถึงบ้านด้วยทีมหมอครอบครัว ส่งเสริมให้คนไม่ป่วย และดูแลผู้ที่ป่วยแล้วให้กลับมาเป็นปกติ โดยขอให้โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช รวมดำเนินงานเชิงรุกเรื่องนี้ด้วย จะเป็นประโยชน์อย่างมากแก่ประชาชน