‘หมอสุรเชษฐ์’ ส่งหนังสือด่วนถึง ก.พ. ให้ทบทวนมติยกเลิกคัดเลือกบรรจุ ‘นวก.สธ.-จพ.สธ.’

‘หมอสุรเชษฐ์’ ลงนาม ส่งหนังสือด่วนถึง ก.พ. ขอให้ทบทวนมติยกเลิกคัดเลือกบรรจุตำแหน่ง นวก.สธ. –จพ.สธ. เปลี่ยนเป็นเปิดสอบแข่งขันแทน ยืนยันต้องไม่มีผลย้อนหลัง เหตุ สธ.เดินหน้าบรรจุ ขรก.ตามมติ ครม.ปี 53 ไปแล้ว พร้อมเตรียมเจรจา ก.พ.สัปดาห์หน้า ด้าน “กลุ่มลูกจ้างชั่วคราวสายวิชาชีพ สธ.” เตรียมเคลื่อนไหวฟ้องศาลปกครอง เสนอเดินหน้าแยก สธ.ออกจาก ก.พ. เหตุทำบุคลากร สธ.แป้ก ไม่ก้าวหน้า พร้อมเผยความรู้สึกหลังทราบประกาศเหมือนถูกฟ้าผ่า หดหู่ ไม่อยากทำงาน หลังรอบรรจุนาน 5 ปี พ้อเลือกทางเดินชีวิตผิด ขณะที่ เครือข่ายนักวิชาการสาธารณสุขสถาบันนอกสมทบ เห็นใจ ชี้ ก.พ.ไม่ควรตัดสิทธิ์ จนท.สาธารณสุขนักเรียนทุน

จากประกาศสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ที่ให้ยกเลิกการคัดเลือกบรรจุตำแหน่งนักวิชาการสาธารณสุข (นวก.สธ.), เจ้าพนักงานสาธารณสุข (จพ.สธ.) จากผู้จบการศึกษาจากสถาบันพระบรมราชชนก โดยกำหนดให้เป็นการสอบแข่งขันเช่นเดียวกับผู้ที่จบจากสถาบันการศึกษาอื่นๆ นั้น (ดูข่าว ที่นี่)

นายเฉลิมศักดิ์ รักษา

นายเฉลิมศักดิ์ รักษา ประธานชมรมลูกจ้างชั่วคราวสายวิชาชีพกระทรวงสาธารณสุขจังหวัดน่าน กล่าวว่า รับทราบประกาศฉบับนี้ตั้งแต่วันที่ 27 พ.ค. ที่ผ่านมา ต้องบอกว่าเป็นประกาศที่ส่งผลกระทบต่อขวัญกำลังใจผู้ปฏิบัติงานอย่างมาก กระทบโดยตรงกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่จบการศึกษาจากสถาบันพระบรมราชชนก ซึ่งทำงานอยู่ในพื้นที่ต่างๆ และรอการบรรจุตามหลักเกณฑ์นี้เช่นเดียวกับรุ่นพี่ที่ได้รับการบรรจุไปก่อนนี้ แต่กลับกำหนดให้ต้องทำการสอบแข่งขันเช่นเดียวกับผู้ที่จบจากสถาบันอื่นๆ ถือว่าไม่เป็นธรรมอย่างมาก เนื่องจากสถาบันพระบรมราชชนกเป็นสถาบันที่ผลิตบุคลากรในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขโดยตรง ทั้งหลักเกณฑ์บรรจุเข้ารับราชการยังเป็นเงื่อนไขที่กำหนดไว้ตั้งแต่แรก

“ประกาศนี้เป็นเหมือกับฟ้าผ่าลงมา จากที่เราคาดหวังว่าจะได้รับการบรรจุเหมือนกับพี่ๆ และเพื่อนๆ ซึ่งผมเรียนจบและทำงานในตำแหน่งเจ้าหน้าที่สาธารณสุข รอการบรรจุมานานถึง 5 ปี ในระหว่างนี้ได้ทำงานในหน้าที่ด้วยความตั้งใจ ดูแลสุขภาพชาวบ้านในฐานะหมออนามัย ทั้งยังพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง แต่อยู่ๆ ก็มีประกาศที่ให้ต้องไปสอบแข่งขันใหม่ ทำให้รู้สึกหดหู่และไม่อยากไปทำงานจากความไม่เป็นธรรมที่เกิดขึ้น ซึ่งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่รอการบรรจุกว่าพันคนต่างรู้สึกเช่นเดียวกัน และต่างมีคำถามว่าตรงนี้เป็นความผิดของพวกเราหรือไม่” นายเฉลิมศักดิ์ กล่าว และว่า เดิมก็ไม่ได้รับความเป็นธรรมในการรอบรรจุตำแหน่งข้าราชการอยู่แล้ว และกลับมาเจอประกาศนี้ซ้ำอีก

นายเฉลิมศักดิ์ กล่าวว่า จากประกาศฉบับนี้ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขและผู้ที่ได้รับผลกระทบจึงได้มีการพูดคุยกัน ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมเอกสารเพื่อเตรียมจะเคลื่อนไหว 2 แนวทาง คือ 1.ยื่นฟ้อง ก.พ.ต่อศาลปกครองเพื่อขอความเป็นธรรมจากคำสั่งดังกล่าว และ 2.การเข้าพบผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุขเพื่อขอให้เจรจากับ ก.พ.ในคำสั่งนี้ และเป็นไปได้อยากจะเสนอให้มีการแยกกระทรวงสาธารณสุขจาก ก.พ. เพราะคนรุ่นเดียวกันที่จบมาเป็นครู ต่างได้รับการบรรจุตำแหน่ง เลื่อนขั้น เลื่อนเงินเดือนกันไปแล้ว ทำให้คิดทบทวนว่าที่ผ่านมาเราเลือกทางชีวิตผิดหรือไม่

ทั้งนี้ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขอยู่ระหว่างการผลักดันนโยบายทีมหมอครอบครัว ซึ่งมีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขหรือหมออนามัยเป็นกลไกสำคัญ จึงอยากให้ทบทวนเพราะเป็นเรื่องที่กระทบขวัญกำลังใจเจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่รอการบรรจุอยู่ขณะนี้

นพ.สุรเชษฐ์ สถิตนิรามัย

นพ.สุรเชษฐ์ สถิตนิรามัย รักษาการปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ไม่ได้ยกเลิก แต่เป็นการระบุให้ต้องทำการสอบคัดเลือก เช่นเดียวกับ แพทย์ พยาบาล เพียงแต่ประกาศฉบับนี้เป็นการออกย้อนหลังภายหลังจากกระทรวงสาธารณสุขได้ดำเนินการเพื่อเตรียมที่บรรจุตำแหน่งข้าราชการในรอบที่ 3 ตามมติ ครม. เมื่อปี 2553 ไปแล้ว โดยมีการแบ่งโควต้าตามสายวิชาชีพและจัดทำเกณฑ์บรรจุที่เรียงตามอาวุโส ตามประสบการณ์แล้ว ดังนั้นในฐานะรักษาการปลัดกระทรวงสาธารณสุข วันที่ 29 พฤษภาคม 2558 จึงได้ลงนามส่งหนังสือไปยัง ก.พ. ว่า หลักเกณฑ์ที่ออกมานี้ต้องใช้ในการบรรจุตำแหน่งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในรอบต่อไป

“หลักเกณฑ์นี้ไม่ควรมีผลย้อยหลัง เพราะจะกระทบกับการดำเนินงานที่กระทรวงสาธารณสุขได้ทำไปแล้ว นอกจากนี้หนังสือที่ส่งไป ก.พ.นี้ ยังขอให้ทบทวนหลักเกณฑ์ฉบับนี้ใหม่ทั้งหมด โดยเฉพาะกับคนที่ทำงานอยู่ในโรงพยาบาลและรอการบรรจุข้าราชการอยู่” รักษาการปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าว และว่า ทั้งนี้ยังเตรียมที่จะไปคุยกับ ก.พ.โดยเร็วที่สุด เนื่องจากจะมีการประชุมคณะกรรมการกําหนดเป้าหมายและนโยบายกําลังคนภาครัฐ (คปร.) ก.พ. ในวันที่ 8 มิถุนายน 2558 ดังนั้นในเรื่องนี้จึงต้องทำให้ชัดเจนก่อน

นพ.สุเชษฐ์ กล่าวว่า สำหรับในส่วนเจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่เตรียมเคลื่อนไหวเพื่อร้องขอความเป็นธรรมต่อศาลปกครอง ถือเป็นสิทธิ์ที่ทำได้ แต่ทั้งนี้ทางสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขเตรียมที่จะส่งหนังสือที่ขอให้ ก.พ.ทบทวนฉบับนี้ไปยังหน่วยงานในสังกัดทั่วประเทศเพื่อแจ้งให้ทราบถึงความคืบหน้าในการดำเนินการในเรื่องนี้

ขณะที่ นายธนะพัฒน์ ทักษิณทร์ แกนนำเครือข่ายนักวิชาการสาธารณสุขสถาบันนอกสมทบ กล่าวว่า เรื่องนี้ทางเครือข่ายฯ ได้พูดคุยกันและเห็นว่าโดยหลักการนักเรียนทุนควรยังได้รับสิทธิในการเรียงคิวบรรจุข้าราชการตามหลักเกณฑ์ก่อนหน้านี้ ซึ่งเมื่อ ก.พ.มีประกาศแบบนี้ต่างรู้สึกเห็นใจ เพราะเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบโดยตรง แต่ในส่วนของเครือข่ายฯ ก็ได้รับผลกระทบต่อประกาศนี้ แต่ไม่มาก โดยในส่วนของ 205 ตำแหน่ง อาจถูกตัดสิทธิ์และยังไม่ได้รับการบรรจุในรอบ 3 ตามมติ ครม.ปี 2553 ที่อยู่ระหว่างดำเนินการนี้ แต่หากปรับโดยเปิดให้เป็นการสอบโดยรวมและเพิ่มตำแหน่งบรรจุให้ในแต่ละปี ก็เป็นสิ่งที่รับได้ 

“ประกาศ ก.พ.ฉบับนี้ฟังขึ้นในส่วนของยกเลิกนักวิชาการสาธารณสุขทั้งในสมทบและนอกสมทบที่กำหนดให้ต้องมีการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุข้าราชการทั้งหมด แต่ในส่วนของการยกเลิกสิทธิการเรียงคิวบรรจุของนักเรียนทุนไม่เห็นด้วย อย่างไรก็ตามต้องติดตามทิศทางในเรื่องนี้ของทาง ก.พ.ต่อไป” แกนนำเครือข่ายนักวิชาการสาธารณสุขสถาบันนอกสมทบ กล่าว