ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

“หมอสุภัทร” จับตา สธ. 2 เดือน หลังนายกฯ สั่งย้าย “หมอณรงค์” กลับ สธ. หวั่นทำระบบสุขภาพสะดุด หลัง สธ. และ สปสช.ร่วมมือทำงานราบรื่นเป็นไปได้ด้วยดี ชี้แม้มีตั้งเงื่อนไขปฏิบัติ 3 ข้อ แต่เชื่อเป็นไปได้ยาก เหตุเป็นเรื่องจุดยืนที่ไม่ยอมกันได้ง่าย ด้าน “หมอวชิระ” ระบุ ผลสอบ “หมอณรงค์” เบิกค่ารถแล้วเสร็จ เชื่อหากนายกฯ เห็นคงไม่มีคำสั่งย้าย 

นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ผอ.รพ.จะนะ จ.สงขลา แกนนำชมรมแพทย์ชนบท กล่าวถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรีมีคำสั่งย้าย นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กลับเข้าทำงานที่กระทรวงสาธารณสุข ว่า ไม่เข้าใจว่าเหตุใดนายกรัฐมนตรีจึงมีคำสั่งย้ายในช่วง 2 เดือนสุดท้ายก่อนที่ นพ.ณรงค์จะเกษียณอายุราชการ ซึ่งคาดว่าน่าจะมีสัญญาลูกผู้ชายนอกรอบกันอยู่ แต่ที่สำคัญที่สุด คือในช่วง 2 เดือนนี้ การดำเนินงานร่วมกันระหว่างกระทรวงสาธารณสุขและสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ที่เริ่มมีความราบรื่นและเป็นไปได้ดี จะสะดุดลงหรือไม่ ซึ่ง ศ.นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รมว.สาธารณสุข จะต้องทำงานได้ ซึ่งหากมีอุปสรรคและปัญหาขัดแย้งเกิดขึ้น จะเป็นสิ่งที่สะท้อนว่านายกรัฐมนตรีคิดผิด

ทั้งนี้ประเด็นการสอบสวนข้อเท็จจริง นพ.ณรงค์ ซึ่งเป็นที่มาของคำสั่งย้ายมาจากเรื่องการทำงานร่วมกับ รมต.สธ. ซึ่งหาก รมต.เป็นคนดี แต่ทำงานไม่ดี ปลัด สธ.ก็ควรมีจุดยืนในมุมมองที่ถูกต้อง แต่หาก รมต. เป็นคนดี และมีทิศทางที่ดีในการพัฒนาระบบสุขภาพ โดยนำไปในแนวทางที่ถูกต้อง ปลัด สธ.ก็ควรให้ความร่วมมือ แต่ที่ผ่านมา ปลัด สธ.เองก็ไม่ได้ให้ความร่วมมือที่ดี จึงกังวลว่า 2 เดือนของการกลับมาจะเป็นการสานต่อแนวคิดเดิมของท่านมากกว่า

นพ.สุภัทร กล่าวว่า ส่วนมีการตั้งเงื่อนไข 3 ข้อของการย้าย นพ.ณรงค์ กลับ สธ. คือต้องไม่ย้ายข้าราชการ สธ. ไม่ยุ่งเกี่ยว สปสช. และต้องปฏิบัติตามนโยบาย รมว.สธ.นั้น  เรื่องนี้ไม่ทราบว่าเป็นจริงหรือไม่ แต่ความเป็นไปได้ของการปฏิบัติตามเงื่อนไขมองว่ามีความเสี่ยงสูงมากที่จะเป็นไปไม่ได้ เพราะ นพ.ณรงค์มีจุดยืนชัดเจนที่ต้องการสถาปนากระทรวงสาธารณสุขให้เข้มแข็งเกรียงไกร และให้ สปสช.เป็นเพียงหน่วยงานในสังกัด สธ. โดยเรื่องนี้เราไม่เห็นด้วย เพราะการเดินเป็นองค์กรคู่ขนานในการทำงานถือเป็นสิ่งที่ดีกว่าการรวบอำนาจบริหาร ซึ่งจะทำให้ระบบสุขภาพแย่ลง โดยเรื่องจุดยืนนี้ไม่ใช่ที่ใครจะยอมกันได้ง่ายๆ เพียงเพื่อจะกลับมาเท่านั้น เชื่อว่า นพ.ณรงค์จะยังคงมีจุดยืนนี้อยู่ ดังนั้น 2 เดือนที่เหลือ ศ.นพ.รัชตะก็อาจทำงานลำบาก

ด้าน นพ.วชิระ บถพิบูลย์ ผอ.รพ.ชุมพวง จ.นครราชสีมา อดีตประธานชมรมแพทย์ชนบท กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้มีการตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง นพ.ณรงค์ กรณีการเบิกเงินค่ารถประจำตำแหน่งทั้งที่ยังมีการเบิกรถกรมสุขภาพจิตไปใช้อยู่ ซึ่งทราบมาว่าผลสอบนี้เสร็จสิ้นแล้วและมีมูล อยู่ระหว่างการส่งไปตามกระบวนการ ดังนั้นจึงต้องถามกลับไปยังทำเนียบรัฐบาลว่า ได้เห็นผลสอบเรื่องนี้แลวหรือไม่ ซึ่งเชื่อว่าหากนายกรัฐมนตรีได้เห็นผลสอบนี้อาจทำให้ตัดสินใจอีกอย่าง แต่เบื้องต้นเมื่อคำสั่งที่ออกมาเป็นคำสั่งโดยนายกรัฐมนตรี เราก็คงต้องเคารพ  

นพ.วชิระ กล่าวว่า ส่วนที่มีการตั้งเงื่อนไขของการย้ายกลับมาของ นพ.ณรงค์ ซึ่งถูกวิจารณ์ถึงความเหมาะสมนั้น ส่วนตัวมองว่าเป็นเรื่องการจัดการเชิงบริหาร ซึ่งผู้ที่มีอำนาจควบคุมกำกับคงเห็นว่า ตรงนี้เป็นปัญหาจึงมีการสั่งกำชับ โดยมีแนวทาง 3 ข้อให้ทำตาม ถือเป็นกระบวนการปกติในการบริหาร เป็นการสั่งกำชับสั้นๆ และเข้าใจกัน 

ต่อข้อซักถามว่า ตามหลายฝ่ายกังวลว่า นพ.ณรงค์จะปฏิบัติได้หรือไม่ เพราะการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงก็มาจากปัญหานี้ นพ.วชิระ กล่าวว่า คนเป็นข้าราชการ โดยเฉพาะในฝ่ายปฏิบัติต้องสนองต่อนโยบาย ซึ่งขณะนี้บ้านเมืองเองก็อยู่ในสถานการณ์พิเศษก็ควรจะตระหนักต่อเรื่องนี้ให้มาก อย่างไรก็ตามมีความกังวลว่า การย้ายกลับอาจจะทำให้มีปัญหาในระบบสาธารณสุขอย่างที่เคยเกิดขึ้นมากแล้ว ซึ่งชมรมแพทย์ชนบทอยู่ระหว่างการหารือและให้โอกาสอยู่