ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

นสพ.มติชน : เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม ศ.มิ่งสรรพ์ ขาวสอาด ผู้อำนวยการแผนงานสร้างเสริมนโยบายสาธารณะที่ดี (นสธ.) กล่าวถึงกรณีรับงบประมาณจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ซึ่งมีการตั้งข้อสังเกตว่าไม่ได้เป็นโครงการที่เกี่ยวข้องกับการสร้างเสริมสุขภาพ ว่า นสธ.ประกอบด้วยชุดโครงการ 12 เรื่องที่สอดคล้องกับการสร้างเสริมสุขภาพ ซึ่งชุดโครงการ "สู่อนาคตไทย" ที่ถูกระบุในข่าวเป็นเพียง 1 ใน 12 ชุดโครงการเท่านั้น ที่ว่าโครงการส่วนใหญ่เป็นเรื่องการเมือง จึงไม่เป็นความจริง โดยชุดโครงการวิจัยสู่อนาคตไทย เป็นการศึกษาแนวโน้มและปัจจัยการเปลี่ยนแปลงทางสังคมที่กระทบกับสุขภาพ เช่น การเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของคนไทยใน 2 ทศวรรษที่ผ่านมา การเปลี่ยนแปลงของสังคมชนบท และฉากทัศน์ชีวิตคนไทย พ.ศ.2567 เป็นต้น ส่วนการศึกษาผลกระทบของภูมิทัศน์การเมืองไทยนั้น การวางแผนพัฒนาสุขภาพของประชาชนย่อมต้องเข้าใจปัจจัยเหล่านี้ เพราะเป็นเรื่องที่ส่งผลต่อความสัมพันธ์ของคนในชุมชนและสังคมในอนาคต

ศ.มิ่งสรรพ์ ขาวสอาด

"ผลงานการศึกษาวิจัยทั้ง 12 ประเด็นมีการนำไปใช้ประโยชน์อย่างกว้างขวาง เช่น 1.ปัญหาหมอกควันในภาคเหนือ ช่วยให้หน่วยราชการที่เกี่ยวข้องนำไปใช้แก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับเรื่องการปิดเว็บไซต์นั้น เนื่องจากแผนงาน นสธ. สิ้นสุดโครงการตั้งแต่วันที่ 31 ธันวาคม 2557 และปัจจุบันแผนงานนี้ไม่ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจาก สสส. แล้ว เพื่อให้ข้อมูลวิจัยที่ยังมีประโยชน์ต่อประเทศได้เผยแพร่ต่อเนื่อง นสธ.กำลังโอนย้ายข้อมูลจากเว็บเดิมที่ปิดไปมาดูแลเอง" ศ.มิ่งสรรพ์กล่าว

ด้านนายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าการสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) กล่าวว่า การตรวจสอบงบประมาณของ สสส. ใกล้ได้ข้อสรุปแล้ว เบื้องต้นทั้ง สสส. และหน่วยงานอื่นที่มีการใช้งบจากภาษีบาป จะต้องมีการปรับเปลี่ยนการได้มาและใช้ไป เช่น ต้องทำโครงการเข้ามาของบประมาณ และต้องมีตัวชี้วัดการทำงานที่มีประสิทธิภาพ แทนการเอาเงินเป็นตัวตั้งแล้วเอาโครงการมาจับเหมือนที่ผ่านมา ซึ่งสิ้นเปลือง หน่วยงานเหล่านี้ควรยอมรับการตรวจสอบและทบทวน ปรับแก้ตามที่มีการทักท้วง

ที่มา : หนังสือพิมพ์มติชน วันที่ 5 ตุลาคม 2558