ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

กรมอนามัย แนะประชาชนในพื้นที่ที่ยังคงมีอากาศหนาวเย็น กินอาหารที่มีประโยชน์ถูกหลักโภชนาการ เพื่อสุขภาพที่ดี ระบุอาหารเผ็ดร้อนช่วยเพิ่มความอบอุ่นให้กับร่างกาย

นพ.ณัฐพร วงษ์ศุทธิภากร รองอธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยถึงการบริโภคอาหารเพื่อสร้างภูมิคุ้มกัน ในช่วงหน้าหนาว ว่า ในช่วงนี้บางจังหวัดในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ยังคงมีอากาศที่หนาวเย็น การบริโภคอาหารที่ดีมีประโยชน์ จะเป็นวิธีการหนึ่งที่จะช่วยให้ร่างกายอบอุ่น โดยเลือกกินให้ครบตั้งแต่ 

1) ข้าว แป้ง อาหารหมู่นี้ให้สารอาหารคาร์โบไฮเดรตเป็นหลักมีหน้าที่หลักในการให้พลังงานแก่ร่างกายเพื่อใช้ในการทำกิจกรรมต่างๆ เช่น ทำงาน เดิน ทำงานบ้าน ออกกำลังกาย เป็นต้น ถ้ากินอาหารหมู่นี้มากเกินความต้องการของร่างกาย สารอาหารคาร์โบไฮเดรตจะถูกเปลี่ยนไปอยู่ในรูปไขมันสะสมในร่างกาย ควรเลือกกินข้าวแป้งที่ผ่านการขัดสีน้อย ผ่านการปรุงใหม่ๆ และยังร้อนอยู่ เพื่อให้ร่างกายได้รับความอบอุ่นเพิ่มด้วย

2) เนื้อสัตว์ ให้สารอาหารโปรตีนเป็นหลัก รวมทั้งวิตามินและแร่ธาตุ ให้เลือกเป็นเนื้อสัตว์ล้วนไม่ติดหนัง ไม่มีมันแทรก เพื่อหลีกเลี่ยงไขมันอิ่มตัวที่ส่งผลต่อภาวะอ้วนและไขมันอุดตันในหลอดเลือด

3) ผักและผลไม้ เป็นแหล่งของใยอาหาร วิตามินและแร่ธาตุ โดยเฉพาะอาหารที่มีรสเปรี้ยว หรือเปรี้ยวอมขมจะมีวิตามินซี ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันแก่ร่างกาย ต้านหวัดได้ อาหารที่มีวิตามินซีที่เหมาะกับหน้าหนาว ได้แก่ กระเจี๊ยบ ดอกแค ขี้เหล็ก ยอดมะขาม หรือผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง และมีรสเปรี้ยวต่างๆ เช่น ฝรั่ง ส้ม เป็นต้น และอาหารที่มีรสชาติเผ็ดร้อนส่วนมากจะเป็นอาหารจำพวกเครื่องเทศ และสมุนไพร อาหารกลุ่มนี้จะกระตุ้นระบบไหลเวียนเลือดในร่างกาย ทำให้ร่างกายรู้สึกอบอุ่นขึ้นได้ เช่น พริกไทย พริก ขิง กระเทียม หัวหอม เป็นต้น และในผักผลไม้ยังมีน้ำเป็นส่วนประกอบสำคัญ ทำให้ผิวมีสุขภาพดี นุ่ม ชุ่มชื้นอีกด้วย

4) ไขมัน เป็นตัวช่วยให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย แต่การกินอาหารไขมันสูง จะไม่ทำให้ร่างกายอบอุ่นขึ้นทันที โดยเฉพาะประเทศไทยอากาศไม่ได้หนาวจัดเหมือนต่างประเทศจึงไม่จำเป็นต้องสะสมไขมันไว้ป้องกันตนเองในหน้าหนาว ซึ่งน้ำมันช่วยในการดูดซึมวิตามินที่ละลายในไขมัน เช่น วิตามินเอ ดี อี และเค จึงควรเลือกกินไขมันชนิดดีในการปรุงอาหารให้เหมาะสมใน 1วัน ไม่ควรกินเกิน 6ช้อนชา ควรใช้น้ำมันหลากหลายชนิดสลับกันไป ใช้น้ำมันที่ประกอบด้วยไขมันอิ่มตัวสูงแต่น้อย เช่น น้ำมันมะพร้าว น้ำมันปาล์ม และน้ำมันจากสัตว์และ 

5) น้ำ แม้ร่างกายจะได้น้ำจากผักผลไม้แล้ว แต่ก็ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายในช่วงหน้าหนาว ซึ่งในร่างกายนั้นมีน้ำเป็นส่วนประกอบถึงร้อยละ 70ของน้ำหนักตัว ทั้งน้ำที่อยู่ภายในเซลล์ น้ำที่อยู่ภายนอกเซลล์ และเลือด น้ำจึงมีความสำคัญในการเป็นตัวกลางในการเกิดกระบวนการเผาผลาญต่างๆ ในร่างกาย ควรดื่มน้ำอุ่นให้ได้อย่างน้อยวันละ 6-8แก้ว โดยค่อยๆ จิบระหว่างมื้อ เพื่อให้ร่างกายได้รับความอบอุ่นจากน้ำ จะช่วยให้ผิวอิ่มน้ำ นุ่ม ชุ่มชื้น ไม่เหี่ยวก่อนวัยอันควรด้วย

“นอกจากนี้ ควรหมั่นออกกำลังกายเป็นประจำสัปดาห์ละ 5 วัน ครั้งละ 30 นาที เพื่อให้ร่างกาย แข็งแรง ระบบหมุนเวียนโลหิตทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ผิวพรรณเปล่งปลั่ง สดชื่น และยังช่วยเผาผลาญไขมันส่วนเกินทำให้มีสุขภาพดีอีกด้วย” รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าว