ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

จพ.สธ. 166 คน ร้องขอความเป็นธรรม “สิทธินับระยะเวลาเกื้อกูล” ไม่คืบ หลัง 6 เดือน สำนักนายกฯ มีหนังสือตอบกลับ ปลัด สธ.ยังไม่แจ้งผลพิจารณา ระบุเหตุร้องเรียน หลังจบหลักสูตรพยาบาลศาสตร์ สธ. 2 ปี ทำเรื่องปรับเป็นตำแหน่งพยาบาลวิชาชีพ แต่ถูกลดซีจากระดับชำนาญงานเป็นปฏิบัติการ เตรียมยื่นหนังสือถามความคืบหน้าหลังสงกรานต์

นายวิษณุรักษ์ ศรีทอง พยาบาลวิชาชีพปฏิบัติการ รักษาการในตำแหน่ง ผอ.รพ.สต.บ้านหนองม่วง ต.เมืองแก อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ กล่าวว่า จากที่ได้ยื่นหนังสือเพื่อขอความเป็นธรรมเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์การนับระยะเวลาและการนำเสนอผลงานในด้านตำแหน่งพยาบาลวิชาชีพชำนาญการ (การนับระยะเวลาเกื้อกูล) ต่อกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) และสำนักนายกรัฐมนตรี ให้กับกลุ่มเจ้าพนักงานสาธารณสุข (จพ.สธ.) ที่จบวุฒิประกาศนียบัตรสาธารณสุขศาสตร์หรือวุฒิสาธารณสุขชุมชน ในการดำรงตำแหน่งพยาบาลวิชาชีพชำนาญการ จำนวน166 คน เมื่อวันที่ 4 กันยายน 2558 และได้ทำหนังสือเพื่อทวงถามความคืบหน้าในการดำเนินการไปยัง 3 หน่วยงานดังกล่าวอีกครั้งในวันที่ 15 มีนาคม ที่ผ่านมา

ล่าสุดเมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2559 ได้รับหนังสือตอบกลับจากสำนักนายกรัฐมตรีแจ้งว่า สำนักนายกรัฐมนตรียังได้ไม่ได้แจ้งผลการพิจารณาจากปลัดกระทรวงสาธารณสุขแต่อย่างใด พร้อมกับได้แนบสำเนาหนังสือการทวงถามความคืบหน้าจากปลัดกระทรวงสาธารณสุขในวันเดียวกัน โดยหนังสือฉบับนี้ชี้ให้เห็นว่าจนถึงขณะนี้เป็นเวลากว่า 6 เดือนภายหลังจากที่ได้ยื่นหนังสือร้องเรียนฉบับแรก หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องยังไม่มีการดำเนินการใดๆ ดังนั้นจึงมีการหารือในกลุ่มผู้ที่ได้รับผลกระทบ และหลังสงกรานต์จะเข้าไปยื่นหนังสืออีกครั้ง เพื่อขอให้เร่งแก้ไขปัญหาความไม่เป็นธรรมที่เกิดขึ้น

นายวิษณุรักษ์ กล่าวว่า สาเหตุของการยื่นหนังสือเพื่อขอความเป็นธรรมระยะเวลาเกื้อกูล เนื่องจากพวกเราเป็น จพ.สธ.ที่จบวุฒิประกาศนียบัตรสาธารณสุขศาสตร์ ซึ่งปัจจุบันได้ปรับเป็นประกาศนียบัตรสาธารณสุขชุมชน โดยมีระยะเวลาการเรียน 2 ปี

แต่ต่อมาในปี 2549 กระทรวงสาธารณสุขได้เปิดหลักสูตรพยาบาลศาสตร์บัณฑิตขึ้น และเปิดให้ จพ.สธ.ที่จบวุฒิการศึกษาดังกล่าวสามารถเทียบโอนหน่วยกิตบางวิชาได้ รวมถึงประสบการณ์วิชาชีพในบางวิชา ซึ่งใช้เวลาในการเรียนต่ออีก 2 ปี

ทั้งนี้ภายหลังเรียนจบและได้ใบประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ชั้น 1 แล้ว กลับมีปัญหาในการปรับตำแหน่งเป็นพยาบาลวิชาชีพ เนื่องจาก จพ.สธ.ที่อยู่ในระดับ 5 และ 6 ซึ่งเป็นชำนาญงานแล้ว ต้องถูกปรับเป็นพยาบาลวิชาชีพในระดับปฏิบัติการ "ซึ่งนอกจากเป็นการลดซีของ จพ.สธ.แล้ว ยังไม่สามารถรับสิทธิประโยชน์ระยะเวลาเกื้อกูลได้ เท่ากับเป็นการเริ่มต้นทำงานราชการใหม่ทั้งที่พวกเราทำงานมาหลายปีแล้ว"

“เราอยากให้นับเกื้อกูลในตำแหน่งพยาบาลวิชาชีพให้กับกลุ่ม จพ.สธ.ที่เข้าเรียนต่อหลักสูตรพยาบาลศาสตร์บัณฑิต เพราะบางคนทำชำนาญงานมาแล้ว แต่กลับต้องมาถูกลดซี นอกจากนี้ จพ.สธ.ในการปฏิบัติหน้าที่ รพ.สต.ซึ่งเมื่อก่อนยังไม่มีพยาบาลวิชาชีพประจำ เราก็ทำงานไม่ต่างกับพยาบาลวิชาชีพอยู่แล้ว และแม้ขณะนี้จะมีพยาบาลวิชาชีพประจำก็มีเพียงแค่ 1 คนเท่านั้น ซึ่ง จพ.สธ.ยังต้องทำงานแทนกัน จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความเป็นธรรม” นายวิษณุรักษ์ กล่าวและว่า ระยะเวลาเกื้อกูลเป็นเพียงแค่ปัญหาหนึ่ง ซึ่งยังมีเรื่องการเยียวยาที่ไม่ครอบคลุมถึง จพ.สธ.อีกด้วย