ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

ประธานชมรม ผอ.รพ.สต. ระบุ สธ.มีคำสั่งมอบให้ ผอ.รพ.สต. เป็นผู้บังคับบัญชา ระหว่างรอแก้กฎหมายกำหนดหน่วยงานราชการส่วนภูมิภาคของ สป.สธ.ทั้ง รพช. รพศ.-รพท.ให้เป็นหน่วยงานถูกต้องตามกฎหมาย เพิ่มบทบาทหน้าที่ ส่งผลต่อการบริหาร รพ.สต.คล่องตัวเพิ่มขึ้น ระหว่างรอปรับปรุง กม.กำหนดให้ รพ.สต.เป็นส่วนราชการถูกต้องในสังกัด สธ.

นายสมศักดิ์ จึงตระกูล ประธานชมรมผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (ประเทศไทย) เปิดเผยถึงกรณีที่กระทรวงสาธารณสุขมีคำสั่งที่ 897/2559 เรื่องมอบหมายให้ข้าราชการเป็นผู้บังคับบัญชา โดยมอบอำนาจให้ผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (ผอ.รพ.สต.) เป็นหนึ่งในผู้บังคับบัญชาในฐานะผู้อำนวยการกองว่า เดิม รพ.สต.มีชื่อเรียกคือสถานีอนามัย มีหน้าที่ปฏิบัติงานด้านสาธารณสุขในระดับตำบล และมีหัวหน้าสถานีอนามัยเป็นหัวหน้าหน่วยบริการ โดยไม่ได้ถูกระบุให้เป็นผู้บังคับบัญชาถูกต้องตามกฎหมาย เป็นเพียงแค่การบริหารกันภายใน สธ.เท่านั้น และแม้ในปี 2552 จะมีการยกฐานะเป็น รพ.สต. โดยเปลี่ยนให้หัวหน้าสถานีอนามัยเป็น ผอ.รพ.สต. แต่ก็ยังเป็นเพียงคำสั่งให้ปฏิบัติหน้าที่ และยังไม่มีการกำหนดให้ รพ.สต.เป็นหน่วยงานราชการในส่วนภูมิภาค มีเพียงสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) และสำนักงานสาธารณสุขอำเภอ (สสอ.) เท่านั้น

ทั้งนี้จากที่ รพ.สต.ไม่ได้ถูกระบุให้เป็นหน่วยงานถูกต้องตามกฎหมาย ส่งผลให้อำนาจการบังคับบัญชาและควบคุมกำกับงานใน รพ.สต.เพื่อเป็นไปตามทิศทางนโยบาย สธ.ไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร เนื่องจากอำนาจการบริหารทั้งหมดยังคงถูกรวมศูนย์ในระดับอำเภอ เช่น การบริหารบุคลากรใน รพ.สต. ทั้งความดี ความชอบ รวมถึงการโยกย้าย ที่ไม่ผ่านความเห็นผู้บังคับบัญชาระดับต้น ไม่เพียงแต่ส่งผลต่อความคล่องตัวในการดำเนินงาน แต่ยังทำให้เกิดปัญหาขาดแคลนบุคลากรในพื้นที่ได้ เนื่องจากการเป็นการโยกย้ายระดับอำเภอที่อาจไม่ได้ดูในเรื่องความขาดแคลนเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ อีกทั้งในการบริหารเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพดำเนินงาน นอกจากการมอบคน เงิน และของแล้ว จะต้องมอบอำนาจเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการควบคุมกำกับ

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า จากปัญหาการบริหารที่เกิดขึ้นนี้ ชมรม ผอ.รพ.สต. (แห่งประเทศไทย) จึงได้ยื่นหนังสือต่อนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 29 ม.ค. 59 เพื่อขอให้มีการปฏิรูป รพ.สต. ซึ่งหนึ่งในข้อเรียกร้องคือขอให้รัฐบาลและ สธ.ปรับปรุงกฎหมายเพื่อให้ รพ.สต.เป็นส่วนราชการที่ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งปัจจุบัน สธ.ได้มีการตั้งคณะทำงานเพื่อปรับปรุงกฎหมายนี้แล้ว โดยมี นพ.วิศิษฎ์ ตั้งนภากร รองปลัด สธ.เป็นหัวหน้าคณะทำงาน ซึ่งตนได้ร่วมเป็นหนึ่งในคณะทำงานนี้ แต่ทั้งนี้การพิจารณาแก้ไขกฎหมายต้องใช้เวลานานไม่ต่ำกว่า 1 ปี ทางชมรม ผอ.รพ.สต. จึงได้ยื่นหนังสือต่อ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รมว.สาธารณสุข เมื่อวันที่ 8 ก.พ. 59 โดยขอให้ระหว่างรอการปรับปรุงกฎหมาย ให้ สธ.แต่งตั้ง ผอ.รพ.สต.เป็นผู้บังคับบัญชา จึงเป็นที่มาของการออกคำสั่ง 897/2559 ของ สธ. เมื่อวันที่ 15 พ.ค. 59 ที่ผ่านมา

“จากคำสั่ง 897/2559 นี้ เป็นการมอบอำนาจใน ผอ.รพ.สต.โดยปลัด สธ. ซึ่งจะส่งผลให้ ผอ.รพ.สต.มีอำนาจในการอนุมัติและอนุญาตในเรื่องต่างๆ ได้ ภายใต้ขอบเขตและกฎหมายแต่ละฉบับที่มีอยู่ อย่างเช่น การออกคำสั่งปฏิบัติงานใน รพ.สต. การออกคำสั่งปฏิบัติงานนอกเวลาราชการ หรือการอนุญาตให้บุคลากรในหน่วยงานไปปฏิบัติงานในเขตตำบลและอำเภอ จากเดิมที่ต้องขอผ่าน สสจ.และ สสอ. ทำให้ ผอ.รพ.สต.มีบทบาทมากขึ้น แต่ทั้งนี้กรณีการไปต่างอำเภอและต่างจังหวัดยังคงเป็นอำนาจของผู้ว่าราชการจังหวัดเช่นเดิม เช่นเดียวกับการคงสายบังคับบัญชาที่จะคงเป็นไปตามระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน” นายสมศักดิ์ กล่าวและว่า นอกจากนี้ยังทำให้ ผอ.รพ.สต. สามารถให้ความเห็นในเรื่องต่างๆ ในฐานะผู้บริหารชั้นต้นได้