ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

ปลัด สธ.เยี่ยมพยาบาลบาดเจ็บระหว่างส่งต่อผู้ป่วย กำชับทุกจังหวัดเข้มงวดมาตรการ ดูแลรถพยาบาลไม่ให้เกิดอุบัติเหตุซ้ำ ให้รถพยาบาลทุกคัน ติดตั้งจีพีเอส ควบคุมความเร็ว ติดกล้องในรถพยาบาลติดตามพฤติกรรมคนขับ 

เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2560 ที่โรงพยาบาลเลิดสิน กรุงเทพมหานคร นพ.โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เยี่ยมให้กำลังใจพยาบาลวิชาชีพ โรงพยาบาลเขาคิชฌกูฎ จังหวัดจันทบุรี ที่บาดเจ็บจากอุบัติเหตุรถพยาบาลเกิดอุบัติเหตุชนกันแล้วพลิกคว่ำระหว่างนำผู้ป่วยส่งโรงพยาบาล เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลพระปกเกล้าฯ จังหวัดจันทบุรี แล้วส่งมารักษาต่อที่โรงพยาบาลเลิดสิน โดยพบกระดูกไขสันหลังเคลื่อนและบาดเจ็บของไขสันหลัง มีอาการชาที่ขา

นพ.โสภณ กล่าวว่า การบาดเจ็บของพยาบาลท่านนี้ เป็นการปฏิบัติงานในหน้าที่ราชการ ในวันนี้ได้มาให้กำลังใจ ให้การช่วยเหลือในสิ่งที่กระทรวงสาธารณสุขจะทำให้ได้ อันดับแรกคือขวัญกำลังใจ ให้ความมั่นใจในสิ่งที่กังวล ให้มั่นใจว่าจะได้รับการดูแลรักษาให้ดีที่สุด ให้ความมั่นใจว่ายังสามารถรับราชการต่อได้ ตามระเบียบของทางราชการ แม้การรักษาจะต้องใช้เวลานาน รวมทั้งข้อกังวลในเรื่องการดูแลคุณพ่อของผู้ป่วยที่อายุ 90 ปี เวลาที่คุณพ่อเจ็บไข้ได้ป่วย ยืนยันว่ามีเครือข่ายดูแลจุดนี้ให้ได้

เรื่องที่ 2 เรื่องเงินช่วยเหลือเบื้องต้นสำหรับผู้ให้บริการ ได้มอบผู้เกี่ยวข้องดำเนินการให้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยอ้างอิงระเบียบของพระราชบัญญัติหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และมาตรา 44 ซึ่งจำนวนเงินที่ได้อาจจะไม่มากนัก แต่ภายในเขตสุขภาพมีการดูแลช่วยเหลือกันอยู่แล้วเป็นน้ำใจที่มีต่อกัน ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขอยู่ระหว่างศึกษาระเบียบของกระทรวงการคลัง โดยให้แนวทางการชดเชยผู้ที่ได้รับความเสียหายจากการดูแลผู้ป่วย เช่น ผู้ติดเชื้อเอชไอวี หรือเปรียบเทียบกับทหารตำรวจที่ปฏิบัติงานหน้าที่ราชการ ซึ่งทางกระทรวงฯ พยายามเร่งรัดดำเนินการขยายความครอบคลุมทั้งอุบัติเหตุ รวมทั้งโรคอุบัติใหม่อื่นๆ  

สิ่งสำคัญที่ต้องเร่งรัดคือ มาตรการเรื่องการดูแลของรถพยาบาลป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุและสั่งการให้ทุกโรงพยาบาล รถพยาบาลต้องทำประกันชั้น 1 พร้อมย้ำผู้บริหารต้องให้ดูแลเรื่องรถพยาบาลไม่ให้เกิดอุบัติเหตุ หากพบต้องสอบสวนหาสาเหตุและวางแผนป้องกันและไม่ให้เกิดอีก ซึ่งขณะนี้ได้มอบเป็นนโยบายให้รถพยาบาลทุกคันติดตั้งจีพีเอส ควบคุมความเร็ว ติดกล้องในรถพยาบาลเพื่อดูพฤติกรรมคนขับด้วย จัดอบรมพนักงานขับรถ เป็นต้น 

“ต้องลดเรื่องของการบาดเจ็บในท้องถนนให้ได้มากที่สุด รัฐบาลได้เร่งรัดดำเนินการอย่างเต็มที่ ขณะนี้จำนวนรถในท้องถนนมีจำนวนมาก ต้องมีการบริหารจัดการในเชิงระบบการบังคับใช้กฎหมาย ทั้งคน รถ และสภาพแวดล้อม ถนนหนทาง ที่สำคัญคือ พฤติกรรมของคนขับ ผู้โดยสาร ที่ต้องมีความตระหนักเรื่องความปลอดภัย” ปลัด สธ.กล่าว