ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เล็งพัฒนาวัคซีนต้านไวรัสโคโรนา 2019 หลังเพาะเชื้อสำเร็จ ด้าน “กรมแพทย์แผนไทย” ไม่น้อยหน้า จ่อวิจัย “ฟ้าทะลายโจร” ฆ่า COVID-19 คาดใช้เวลา 1 เดือนรู้ผล

เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2563 นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวในการแถลงข่าวความคืบหน้าโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID -19) ว่า ขอยืนยันว่าน้ำยาตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ของกรมวิทยาศาสตร์มีเพียงพอ และตอนนี้ร่วมกับหน่วยงานเครือข่ายพัฒนาห้องแล็บที่สามารถตรวจเชื้อได้ คือโรงเรียนแพทย์ สถาบันบำราศ และ รพ.บำรุงราษฎร์ ทั้งนี้หาก รพ.ใด ตรวจได้ขอให้ทำเรื่องมาที่กรมวิทยาศาสตร์เพื่อไปทดสอบ และตรวจมาตรฐานก่อน ซึ่งขณะนี้กรมฯ กำลังเร่งพัฒนาให้สามารถตรวจใน รพ.อย่างน้อยจังหวัดละ 1 แห่ง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้กรมสามารถเพาะเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในเซลล์ได้แล้ว ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการพัฒนาวัคซีนป้องกัน และยารักษาโรคนี้ได้ โดยจะร่วมกับมหาวิทยาลัยมหิดล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย องค์การเภสัชกรรม และสถาบันวัคซีน ในการวิจัยและพัฒนาวัคซีนต่อไป ซึ่งต้องใช้เวลา แต่ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดี

ขณะที่ นพ.ปราโมทย์ เสถียรรัตน์ รองอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า ในวันที่ 25 ก.พ.นี้ กรมฯ จะลงนามความร่วมมือกับกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และองค์การเภสัชกรรม เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการนำฟ้าทะลายโจรซึ่งเป็นยาสมุนไพรที่มีฤทธิ์ในการเพิ่มภูมิคุ้มกันโรค ต้านการอักเสบ และต้านไวรัส โดยเฉพาะไวรัสในกลุ่มโรคทางเดินหายใจ มาทดลองว่าจะสามารถต้านไวรัสโคโรนนา 2019 ได้หรือไม่ โดยจะให้กับกลุ่มตัวอย่างที่เป็นคนไทยสุขภาพดี 10 คน รับประทานยาฟ้าทะลายโจร และอยู่ใน รพ. 5 วัน จากนั้นจะเอาซีรัม ของกลุ่มตัวอย่างไปใส่เชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพื่อดูว่าจะสามารถทำให้เชื้อตายได้หรือไม่ ทั้งนี้การทดลองจะใช้เวลาประมาณ 1 เดือน