ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์เห็นด้วยแถลงการณ์ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทยกรณีข้อห่วงใยผลกระทบกัญชาต่อเด็กและเยาวชน พร้อมเรียกร้อง “พล.อ.ประยุทธ์” นำกัญชากลับคืนเป็นยาเสพติด

 

เมื่อวันที่  8 ธ.ค. ที่อาคารรัฐสภา นายบัญญัติ เจตนจันทร์ พร้อมด้วย นายพิสิฐ ลี้อาธรรม นายประกอบ รัตนพันธ์ และน.ส.พิมพ์รพี พันธุ์วิชาติกุล ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ร่วมกันแถลงข่าวผลกระทบกัญชาต่อเด็กและเยาวชน

นพ.บัญญัติ กล่าวว่า การปลดล็อกกัญชาออกจากบัญชียาเสพติดให้โทษประเภท 5 ที่ผ่านมาแล้ว 6 เดือน พบว่ามีเด็กและเยาวชนได้รับผลกระทบ   โดยพรรคประชาธิปัตย์รู้สึกเป็นห่วงสุขภาพเด็กและเยาวชน ที่อายุไม่ถึง 20 ปี ที่จะได้รับผลกระทบต่อสมอง เช่น พัฒนาการล่าช้า ปัญหาพฤติกรรม ไอคิวลดลง ส่งผลต่ออารมณ์และจิตใจ เช่น มีความเสี่ยงต่อการป่วยเป็นโรคจิตเภท เสี่ยงต่อการติดสารเสพติดชนิดอื่น ๆ รวมถึงส่งผลเสียต่อสุขภาพกาย ทั้งในระยะสั้น และระยะยาว

อย่างไรก็ตาม พรรคประชาธิปัตย์ เห็นด้วย และสนับสนุน แถลงการณ์ของราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย สมาคมกุมารประสาทวิทยา (ประเทศไทย) ชมรมจิตแพทย์เด็กและวัยรุ่นแห่งประเทศไทย ชมรมพัฒนาการและพฤติกรรมเด็กแห่งประเทศไทย ที่มีความห่วงใยและตระหนักถึงอันตรายที่จะเกิดขึ้น จึงมีคำแนะนำเพื่อป้องกันผลกระทบที่เกิดจากกัญชาต่อเด็กและวัยรุ่น จึงขอเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ดำเนินการ 5 ข้อ ดังนี้

1. เด็กที่อายุน้อยกว่า 20 ปี ไม่ควรเข้าถึงและบริโภคกัญชา เนื่องจากสมองยังพัฒนาไม่เต็มที่ และกัญชามีสาร THC ที่มีผลต่อสมองเด็กในระยะยาว ดังนั้น เด็กจึงไม่ควรได้รับ THC ยกเว้นกรณีมีความจำเป็นทางการแพทย์ เช่น ประกอบการรักษาประคับประคองผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย โรคลมชักรักษายาก ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลรักษาของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอย่างใกล้ชิด

2. ให้มีการประชาสัมพันธ์กับประชาชนเรื่องโทษของการใช้กัญชากับสมองเด็ก เพื่อให้เกิดความตระหนักต่อการเข้าถึงกัญชาในเด็กและวัยรุ่นเพื่อนันทนาการว่ากัญชาเป็นสารที่มีฤทธิ์เสพติด ส่งผลต่อสุขภาพกายและจิตในระยะเฉียบพลัน และอาจรุนแรงถึงแก่ชีวิตได้ รวมถึงมีผลกระทบในระยะยาวต่อสมอง ทำให้มีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างและการทำงานของสมองที่กำลังพัฒนา

3. ให้มีมาตรการควบคุม การผลิต และขายอาหารหรือผลิตภัณฑ์ที่มีกัญชาผสม และให้มีเครื่องหมาย/ ข้อความเตือนอย่างชัดเจนเพื่อป้องกันการใช้ในเด็กและวัยรุ่น โดยระบุ "ห้ามเด็กและเยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปีบริโภค"

4. ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควบคุมการโฆษณาผลิตภัณฑ์ ควบคุมไม่ให้มีการจงใจออกแบบผลิตภัณฑ์ที่มีกัญชาเป็นส่วนผสม เช่น ภาพการ์ตูน หรือใช้คำพูดสื่อไปในทางให้เกิดความเข้าใจผิดว่าเป็นอาหารหรือขนมที่เด็กและวัยรุ่นบริโภคได้

5. ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีการติดตามผลกระทบของกัญชาต่อเด็กอย่างต่อเนื่องและจริงจังหลังจากใช้กฎหมายกัญชาเสรี

นพ.บัญญัติ กล่าวอีกว่า ขอเรียนถามนายกรัฐมนตรีว่า ท่านได้ประเมินผลที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ได้มีมติเห็นชอบให้กระทรวงสาธารณสุข ประกาศปลดล็อคกัญชาเสรี จนกระทั่งเด็กและเยาวชนได้รับผลกระทบต่อสุขภาพจิตและสมองหรือไม่ และนายกรัฐมนตรีจะทบทวนนโยบายกัญชาเสรีอย่างไร

“เรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม และรัฐบาล นำกัญชากลับเข้าไปบรรจุในบัญชียาเสพติดอีกครั้ง ส่วนที่มีคนกล่าวหาว่า ผมและพรรคประชาธิปัตย์ จัดฉากให้เด็ก 9 ขวบ และ 10 ขวบสูบกัญชา ริมหาดพัทยา จ.ชลบุรี เพื่อหวังผลทางการเมือง  ขอปฏิเสธอีกครั้งว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ซึ่งผู้ที่โพสต์เรื่องนี้ก็ได้ออกมาปฏิเสธแล้ว ดังนั้น ผู้ที่กล่าวหาก็ต้องรับผิดชอบต่อสิ่งที่ตัวเองพูดด้วย” นพ.บัญญัติ กล่าว

ด้าน นายพิสิฐ กล่าวว่า ในสภาคนบางคนพูดว่า หากเราไปเลิกกัญชาเสรีจะมีผลเสียหายทางเศรษฐกิจนับหมื่นล้านบาท แต่ตนคิดว่าความสูญเสียนั้น อาจเป็นของนายทุนบางรายหรือไม่ จึงเรียกร้องนายกฯ สั่งให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ยกเลิกการปลดล็อกเสรี ให้กลับมาอยู่ที่เดิม