ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

ที่ประชุมคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ รับทราบแนวทางขับเคลื่อน “ธรรมนูญสุขภาพพระสงฆ์แห่งชาติ ฉบับที่ 2”   มุ่งศึกษา-พัฒนานวัตกรรมด้านสุขภาพพระ จ่อลงนาม ‘ธรรมนูญสถานศึกษาฯ’ 17 ก.ค.นี้ พร้อมเคาะมติแต่งตั้ง “สัมพันธ์ ศิลปนาฎ” เป็นประธานจัดสมัชชาสุขภาพฯ ครั้งที่ 17-18

 

เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม   นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (คสช.) ครั้งที่ 4/2566 โดยก่อนประชุมตามระเบียบวาระ นายอนุทิน ได้กล่าวขอบคุณกรรมการ คสช. และทีมงานสำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) ที่ตลอดเวลา 4 ปีในการทำหน้าที่เป็นประธาน คสช. เป็นช่วงเวลาที่มีความสุขมากที่สุด เพราะได้ทำงานร่วมกันจนเกิดประโยชน์กับประชาชนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการรับมือกับวิกฤตการระบาดของโควิด-19 ที่ผ่านมา

 

"อนุทิน" ขอบคุณคกก.สุขภาพแห่งชาติ ทำงานร่วมกันตลอด 4 ปี

นายอนุทิน ยังได้กล่าวถึงความคืบหน้าตลอดระยะเวลา 4 ปี ของการทำงานร่วมกับ คสช. และ สช. ซึ่งเกิดผลงานที่มีความสำคัญระดับประเทศและพื้นที่มากมาย เช่น การจัดทำธรรมนูญว่าด้วยระบบสุขภาพแห่งชาติ ฉบับที่ 3 พ.ศ. 2565, การจัดทำหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินผลกระทบด้านสุขภาพ ที่เกิดจากนโยบายสาธารณะ (HIA) พ.ศ. 2564, การจัดสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ รวม 4 ครั้งตั้งแต่ปี 2562 - 2565 จนเกิดเป็น 12 มติ เพื่อรับมือกับปัญหาสำคัญของประเทศ ตลอดจนการขับเคลื่อนแผนงาน “รวมพลังพลเมืองตื่นรู้ ช่วยชาติสู้ภัยโควิด-19” ที่ทำให้เกิดมาตรการสู้ภัยโควิดของชุมชนต่างๆ ทั่วประเทศ เพื่อหนุนเสริมมาตรการของรัฐบาล

 

“ยังมีความน่ายินดีที่เกิดขึ้นกับวงการสาธารณสุขของไทย เมื่อวันที่ 15 มิ.ย. ที่ผ่านมา ได้มีรายงานการจัดอันดับดัชนีว่าด้วยเสรีภาพและความมั่งคั่ง ประจำปี 2566 ของสถาบัน Atlantic Council สหรัฐอเมริกา โดยไทยได้รับการจัดอันดับให้เป็นประเทศที่มีความมั่งคั่งอันดับที่ 55 จากทั้งหมด 164 ประเทศทั่วโลก และถือเป็นอันดับที่ 3 ของอาเซียน รองจากสิงคโปร์และมาเลเซีย โดยได้คะแนนตัวชี้วัดด้านสุขภาพสูงถึง 90.9 คะแนน สูงจนสามารถดึงคะแนนรวมของประเทศให้อยู่ในอันดับที่สูง สะท้อนศักยภาพของระบบสาธารณสุขไทยว่าอยู่ในแถวหน้าของโลก จึงหวังว่าจะเป็นกำลังใจให้เราขับเคลื่อนงานด้านสุขภาพอย่างเต็มที่ต่อไป” นายอนุทิน กล่าว

 

คสช.มีมติประกาศใช้แนวทางเคลื่อนธรรมนูญสุขภาพพระสงฆ์

หลังนั้นที่ประชุม คสช. ได้มีมติรับทราบการประกาศใช้และแนวทางการขับเคลื่อนธรรมนูญสุขภาพพระสงฆ์แห่งชาติ พ.ศ. 2566 ซึ่งเป็นฉบับที่ 2 โดยมีเป้าหมายการดำเนินงานเพื่อบรรลุใน 3 ด้าน คือ 1. พระแข็งแรง ด้วยระบบการดูแลสุขภาพพระสงฆ์ 2. วัดมั่นคง ด้วยการเป็นศูนย์กลางการพัฒนาของชุมชน 3. ชุมชนเป็นสุข ด้วยบทบาทพระสงฆ์และวัดในการสร้างเสริมสุขภาพ

 

พร้อมกันนี้ ที่ประชุมยังได้มีมติรับทราบความร่วมมือการขับเคลื่อนธรรมนูญสุขภาพสถานศึกษา ระหว่างกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กับ สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) ซึ่งจะเป็นกรอบทิศทาง หรือข้อตกลงร่วมของนักเรียน ครู และผู้ปกครองภายในสถานศึกษา ในการสร้างสุขภาพ ทั้ง 4 มิติ คือ กาย จิต ปัญญา และสังคม ให้เกิดขึ้นในสถานศึกษาและชุมชนตามกรอบธรรมนูญว่าด้วยระบบสุขภาพแห่งชาติ ฉบับที่ 3 พ.ศ. 2565 โดยจะมีการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการขับเคลื่อนร่วมกันระหว่าง ศธ. กับ สช. ในวันที่ 17 ก.ค. 2566

 

นายสุทธิพงษ์ วสุโสภาพล รองเลขาธิการ คสช. เปิดเผยว่า เด็ก เยาวชน และสถานศึกษา เป็นเป้าหมายสำคัญของการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพคนไทยให้มีความพร้อมทั้งกาย จิตใจ สติปัญญา และมีสุขภาพที่ดี ภายใต้สภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวย เพื่อเติบโตเป็นพลเมืองที่ดี มีคุณภาพตามทิศทางการพัฒนาประเทศ ซึ่งภายใต้กรอบของธรรมนูญว่าด้วยระบบสุขภาพแห่งชาติ ฉบับที่ 3 ได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนากระบวนการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน การทำสภาพแวดล้อมและระบบนิเวศให้เอื้อต่อการมีสุขภาพดี และการพัฒนาศักยภาพมนุษย์ในทุกกลุ่มวัยและทุกระดับ เพื่อนำไปสู่เป้าหมายระบบสุขภาพและสังคมที่เป็นธรรม

 

“ศธ. และ สช. ได้เห็นถึงความสำคัญในเรื่องนี้ จึงได้มีการหารือความร่วมมือในการขับเคลื่อนธรรมนูญสุขภาพสถานศึกษา ด้วยการส่งเสริมและสนับสนุนสถานศึกษาทุกแห่งในสังกัด ศธ. ในการดำเนินกระบวนการอย่างมีส่วนร่วมของครู นักเรียน และผู้ปกครอง เพื่อจัดทำธรรมนูญสุขภาพฯ เป็นกรอบและทิศทางในการสร้างสุขภาวะภายในโรงเรียน เช่น การจัดการสิ่งแวดล้อม การจัดการด้านอาหารและเครื่องดื่ม และการจัดการระบบดูแลสุขภาพของนักเรียนและบุคลากรภายในโรงเรียน ฯลฯ” นายสุทธิพงษ์ กล่าว

ขณะที่ ผศ.ดร.วีระศักดิ์ พุทธาศรี รองเลขาธิการ คสช. กล่าวว่า ในส่วนของการขับเคลื่อนธรรมนูญสุขภาพพระสงฆ์แห่งชาติ พ.ศ. 2566 ล่าสุดเมื่อวันที่ 22 มิ.ย. 2566 ผู้แทนหน่วยงานและองค์กรที่เกี่ยวข้องรวม 12 หน่วยงาน ได้ร่วมกันหารือถึงแนวทางการขับเคลื่อน โดยการค้นหารูปธรรมการทำงาน ยุทธศาสตร์ของหน่วยงาน/องค์กรที่เกี่ยวข้องในประเด็น 1. พระสงฆ์กับการดูแลตนเองตามหลักพระธรรมวินัย 2. ชุมชนและสังคมกับการดูแลสุขภาพพระสงฆ์ตามหลักพระธรรมวินัย 3. บทบาทพระสงฆ์ในการเป็นผู้นำด้านสุขภาวะชุมชนและสังคม 4. การขับเคลื่อนธรรมนูญสุขภาพพระสงฆ์แห่งชาติ พ.ศ. 2566

 

ผศ.ดร.วีระศักดิ์ กล่าวว่า ผลการหารือของทั้ง 12 หน่วยงาน ยังได้มุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพการขับเคลื่อนธรรมนูญสุขภาพพระสงฆ์แห่งชาติใน 3 ด้าน ได้แก่ 1. การศึกษาวิจัย การจัดการข้อมูล การประเมินผลและจัดทำรายงานสุขภาพพระสงฆ์ เพื่อรองรับการขับเคลื่อนสุขภาพทุกมิติของธรรมนูญสุขภาพพระสงฆ์ฯ คณะสงฆ์ และองค์กรพระพุทธศาสนา 2. การพัฒนานวัตกรรม ช่องทางการสื่อสารข้อมูล องค์ความรู้ด้านสุขภาพในกลุ่มพระสงฆ์ และการสื่อสารสาธารณะ 3. การดำเนินงานผ่านกลไกต่างๆ ในระดับพื้นที่

 

นอกจากนี้ ที่ประชุม คสช. ยังได้มีมติเห็นชอบให้แต่งตั้งคณะกรรมการจัดสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ (คจ.สช.) ครั้งที่ 17 และครั้งที่ 18 พ.ศ. 2567-2568 โดยมี นายสัมพันธ์ ศิลปนาฎ เป็นประธาน เพื่อทำหน้าที่ในการวางแผนดำเนินการและจัดสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ 17-18 ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย พร้อมประสานกับภาคีเครือข่ายระดับต่างๆ รวมถึงสนับสนุนการจัดสมัชชาสุขภาพเฉพาะพื้นที่ และสมัชชาสุขภาพเฉพาะประเด็น ตลอดจนดำเนินการรวบรวมมติและข้อเสนอจากสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ เสนอต่อ คสช. เพื่อขับเคลื่อนและดำเนินการสู่การปฏิบัติต่อไป

มติแต่งตั้ง “สัมพันธ์ ศิลปนาฎ” เป็นประธานจัดสมัชชาสุขภาพฯ ครั้งที่ 17-18

ด้าน นพ.ประทีป ธนกิจเจริญ เลขาธิการ คสช. กล่าวว่า ปัจจุบัน นายสัมพันธ์ ศิลปนาฎ เป็นผู้บริหารและนักวิชาการจากภาคธุรกิจเอกชน ที่มีบทบาทสำคัญในการกำหนดนโยบายและขับเคลื่อนงานด้านสุขภาพร่วมกับหน่วยงานภาครัฐมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น ประธานคณะกรรมการสนับสนุนศึกษาและติดตามการเจรจาการค้าระหว่างประเทศที่มีผลกระทบต่อสุขภาพและนโยบายสุขภาพ (NCITHS) ที่แต่งตั้งโดย คสช. และเป็นกรรมการในบอร์ดใหญ่ของ สสส. รวมถึงคณะกรรมการชุดต่างๆ ของ สำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.) สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) เป็นต้น

 

นพ.ประทีป กล่าวว่า การเสนอพิจารณาแต่งตั้ง คจ.สช. ชุดใหม่นี้ เพื่อให้การเตรียมการจัดสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ 2 ครั้งต่อไป สามารถดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับสถานการณ์ภายในและภายนอกประเทศที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และมีส่วนร่วมของภาคีทุกภาคส่วน หลังจาก คจ.สช. ครั้งที่ 15-16 ชุดปัจจุบันที่มี นายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ เป็นประธาน จะครบวาระการดำรงตำแหน่งหลังจากการจัดสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ 16 พ.ศ. 2566 เสร็จสิ้นลง โดยมีการกำหนดจัดระหว่างวันที่ 21-22 ธ.ค. 2566 ณ โรงแรมเซ็นทรา บายเซ็นทารา ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ กรุงเทพมหานคร