องค์การเภสัชฯ บริจาคยา Molnupiravir 1 ล้านแคปซูลให้ WHO SEARO

องค์การเภสัชกรรม บริจาคยา Molnupiravir 1 ล้านแคปซูล มูลค่า 9,150,000 บาท ให้ WHO SEARO เพื่อนำไปมอบประเทศสมาชิกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จำนวน 11 ประเทศ ใช้ในการรักษาโรคโควิด 19 ให้กับผู้ป่วย

วันนี้ (23 พฤษภาคม 2567) เวลา 13.00 น. ที่ห้องรับรอง องค์การเภสัชกรรม พญ.มิ่งขวัญ สุพรรณพงศ์ ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม เป็นประธาน บริจาคยา Molnupiravir Capsules จำนวน 1 ล้านแคปซูล มูลค่า 9,150,000 บาท ให้แก่สำนักงานองค์การอนามัยโลกประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (WHO SEARO)หรือ WHO South-East Asia | World Health Organization: WHO-SEARO โดยมี Dr. Jos Vandelaer WHO Representative to Thailand เป็นผู้รับมอบ เพื่อนำไปมอบให้แก่ประเทศสมาชิกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จำนวน 11 ประเทศ ได้แก่ บังกลาเทศ ภูฏาน เกาหลีเหนือ อินเดีย อินโดนีเซีย มัลดีฟส์ เมียนมา เนปาล ศรีลังกา ไทย และติมอร์-เลสเต ใช้ในการรักษาโรคโควิด 19 ให้กับผู้ป่วย

สำหรับยา Molnupiravir Capsules เป็นยาต้านไวรัสที่ใช้ในการรักษาโรคโควิด 19 ในผู้ป่วยที่มีอาการไม่รุนแรงถึงปานกลาง โดยมีประสิทธิภาพในการลดความเสี่ยงในการเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลและลดการเสียชีวิตจากโรคโควิด 19 ได้ โดยยาโมลนูพิราเวียร์ (Molnupiravir) เป็นยาต้านโควิดชนิดรับประทานตัวแรกของโลกที่มีผลในการลดเชื้อโควิด 19 สำหรับผู้ป่วยโควิดที่มีอาการเล็กน้อยถึงปานกลางที่อยู่ที่บ้าน (home isolation) และจากผลวิจัยการใช้งานยา Molnupiravir เบื้องต้นนั้นพบว่า มีความปลอดภัย มีประสิทธิภาพ สามารถลดความรุนแรงของโรคได้ โดยผู้ป่วยโควิด 19 อายุ 18 ปีขึ้นไปที่มีอาการเล็กน้อยถึงปานกลาง แต่การใช้ยานี้เพียงลำพังยังไม่สามารถให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดได้ ต้องรักษาและป้องกันด้วยวิธีอื่นๆร่วมด้วย เช่น การฉีดวัคซีน การสวมหน้ากากอนามัย การล้างมือ เป็นต้น

การบริจาคยา Molnupiravir Capsules ขององค์การเภสัชกรรมในครั้งนี้ เป็นการแสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันกับประเทศสมาชิกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในด้านสาธารณสุข และนำมาซึ่งสุขภาพที่แข็งแรงขึ้น ลดอาการป่วยรุนแรงจากโรคโควิด 19 ทำให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และขอให้ประชาชนมั่นใจได้ว่า องค์การฯสามารถจัดเตรียมยาที่มีประสิทธิภาพในการรักษา และสำรองวัตถุดิบไว้รองรับอย่างเพียงพอและทั่วถึง หากมีความจำเป็นต้องการใช้อย่างเร่งด่วนก็สามารถเร่งการผลิตเพิ่มเติมให้รวดเร็วทันการมากที่สุดได้ในทันที