ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

เปิดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ Gen Z 4 ภาค "ร่วมปกป้องเด็กและเยาวชนจากบุหรี่ไฟฟ้า" ศธ.บูรณาการความร่วมมือ กวาดล้าง "บุหรี่ไฟฟ้า" อย่างจริงจัง เร่งรณรงค์ให้รู้ถึงพิษภัยของการเสพติด 

วันนี้ (27 พฤษภาคม  2567) มูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ ร่วมกับ เครือข่ายครูเพื่อโรงเรียนปลอดบุหรี่ เปิดโอกาสและเปิดพื้นที่จัดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ผลการดำเนินงานชมรม Gen Z GenStrong  4 ภาค  “ร่วมปกป้องเด็กและเยาวชนจากบุหรี่ไฟฟ้า ”  โดยมีตัวแทนแกนนำเยาวชนชมรม Gen Z และครูที่ปรึกษาจากโรงเรียนระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษา จาก 14 จังหวัด เข้าร่วมรวม 120 คน ณ โรงแรมเอเชีย กรุงเทพฯ

พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ประธานในการเปิดงาน กล่าวว่า จากสถานการณ์การระบาดของบุหรี่ไฟฟ้าในกลุ่มเด็กและเยาวชนเข้าไปในโรงเรียนจนถึงนักเรียนชั้นประถมศึกษา ปัจจุบันนายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อเรื่องการระบาดและการลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งเป็นสาเหตุของการเข้าถึงในเด็กและเยาวชนได้ง่าย โดยได้สั่งการและกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการความร่วมมือ เพื่อกวาดล้างและปราบปรามอย่างจริงจัง โดยเฉพาะปัจจุบันที่มีการลักลอบจำหน่ายในกลุ่มเด็กและเยาวชน รวมถึงมีนโยบายให้ กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) และ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ให้สื่อสารและประชาสัมพันธ์ให้ความรู้กับหน่วยงานในสังกัด เผยแพร่และประชาสัมพันธ์ให้รู้ถึงพิษภัยของการเสพติดบุหรี่ไฟฟ้า

พลตำรวจเอก เพิ่มพูน กล่าวเพิ่มเติมว่า งานเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ผลการดำเนินงาน Gen Z 4 ภาค “ร่วมปกป้องเด็กและเยาวชนจากบุหรี่ไฟฟ้า” นอกจากจะเป็นเวทีที่เยาวชน ได้มาร่วมแลกเปลี่ยนและนำเสนอผลงานของการทำงานของชมรม Gen Z ในโรงเรียน ยังเป็นโอกาสดีที่แกนนำเด็กและเยาวชน  รวมถึงครูที่ปรึกษา จะได้ช่วยกันสื่อสารไปยังผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง  โดยเฉพาะ ครู ผู้ปกครอง ต้องช่วยกันสอดส่องดูแล และให้ความใส่ใจบุตรหลาน หากพบเห็นสิ่งแปลกปลอมที่อาจเป็นบุหรี่ไฟฟ้า ขอให้ช่วยกันตักเตือน เพราะบุหรี่ไฟฟ้าเป็นอันตรายต่อสุขภาพร่างกาย  และจะทำลายพัฒนาการทางสมอง   

นอกจากนี้ ภัยของบุหรี่ไฟฟ้าที่ส่งผลกระทบต่อเด็กและเยาวชนในปัจจุบันเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง ซึ่งกลุ่มผู้เสพหน้าใหม่ที่เป็นเยาวชนอายุเพียง 13 ปี และยังสืบทราบว่ามีการนำไปขายในโรงเรียน สถานศึกษา โดยเด็กและเยาวชนเป็นคนรับไปจำหน่ายเอง จึงขอความร่วมมือทั้งผู้ปกครองและสถานศึกษา หากพบเห็นการลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า ขอความร่วมมือให้แจ้งหน่วยงานรัฐ ทั้งทาง สายด่วน สคบ. 1166 และสายด่วนของภาครัฐทุกช่องทาง ในขณะนี้ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ ได้ดำเนินการในการแก้ไขปัญหาบุหรี่ไฟฟ้า  โดยดำเนินการบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในทุกระดับ เพื่อสร้างการรับรู้ถึงพิษภัยบุหรี่ไฟฟ้า  ซึ่งจะช่วยเป็นเกราะป้องกันได้อีกทางหนึ่งด้วย เพื่อปกป้องคุ้มครองเด็กและเยาวชน จากมหันตภัยพิษร้ายจากบุหรี่ไฟฟ้า

Gen Z 4 ภาค  “ร่วมปกป้องเด็กและเยาวชนจากบุหรี่ไฟฟ้า”

ด้าน นางสาวชวาลา  ภวภูตานนท์ ณ มหาสารคาม ผู้ช่วยผู้จัดการมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ และผู้จัดการโครงการป้องกันเยาวชนจากการสูบบุหรี่ และบุหรี่ไฟฟ้า (Gen Z Gen Strong เลือกไม่สูบ) กล่าวว่า จากผลการสำรวจการบริโภคผลิตภัณฑ์ยาสูบในเยาวชนไทย อายุ 13-15 ปี จำนวน 6,700 คน พื้นที่โรงเรียนทั่วประเทศ พบว่า การสูบบุหรี่ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด จากปี พ.ศ.2558 พบเยาวชนสูบบุหรี่ร้อยละ 3.3 แต่ปี พ.ศ.2565 พบว่า อัตราการสูบบุหรี่สูงถึงร้อยละ 17.6 ซึ่งเพิ่มขึ้นเกือบ 5.3 เท่า และเยาวชนหญิงสูบบุหรี่ไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้น จากสถานการณ์ข้างต้น จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ภาคีเครือข่ายควบคุมการบริโภคยาสูบทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ เอกชน และภาคประชาสังคม รวมถึงครูและผู้ปกครอง ต้องรับรู้และตระหนักถึงความสำคัญในการสื่อสารและสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง เกี่ยวกับอันตรายของบุหรี่ไฟฟ้า เพื่อปกป้องเด็กและเยาวชนไทยจากการเสพติดบุหรี่ไฟฟ้า 

มูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ ในฐานะองค์กรเอกชนที่สนับสนุนการรณรงค์ป้องกันเด็กและเยาวชน จากพิษภัยของบุหรี่ บุหรี่ไฟฟ้า ร่วมกับ เครือข่ายครูเพื่อโรงเรียนปลอดบุหรี่ จึงได้จัดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ผลการดำเนินงาน Gen Z 4 ภาค  “ร่วมปกป้องเด็กและเยาวชนจากบุหรี่ไฟฟ้า” โดยมี ครู และเยาวชนระดับมัธยมศึกษาจาก 14 จังหวัด เข้าร่วมรวม 120 คน ประกอบด้วย  ภาคเหนือ 8 โรงเรียน จาก 4 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดแม่ฮ่องสอน  เชียงใหม่  เพชรบูรณ์  และ จังหวัดพิษณุโลก   ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 8 โรงเรียน จาก 4 จังหวัด ได้แก่  จังหวัดขอนแก่น  นครราชสีมา  อุบลราชธานี  และจังหวัดอำนาจเจริญ   ภาคกลาง 6 โรงเรียน จาก 2 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร  และจังหวัดกาญจนบุรี  ภาคใต้ 8 โรงเรียน จาก 4 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดกระบี่  ยะลา  ปัตตานี และจังหวัดนราธิวาส 

นางสาวชวาลา  กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการป้องกันนักสูบหน้าใหม่ Gen Z Gen Strong :  เลือกไม่สูบ เริ่มขับเคลื่อนงานตั้งแต่ ปี พ.ศ.2560 เป็นต้นมา จากการดำเนินงานส่งผลให้เยาวชนมีความรู้ ความเข้าใจและตระหนักถึงโทษ และพิษภัยที่เกิดจากการสูบบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้ามากยิ่งขึ้น และยังมีการขับเคลื่อนงานในภูมิภาคต่าง ๆ ทั้งส่วนกลางและระดับพื้นที่ ครอบคลุม  28  จังหวัด  235  ชมรม มีสมาชิกกว่า 6,776 คน ในส่วนของเยาวชนแกนนำ Gen Z ได้รับการพัฒนาสมรรถนะให้มีบทบาทในการรณรงค์สามารถขับเคลื่อนการดำเนินโครงการในมิติต่าง ๆ ทั้งการรณรงค์สื่อสาร และผลักดันนโยบายสำคัญระดับท้องถิ่นและระดับประเทศ  

ด้าน นางสาวธัญญา ทองส้าน ประธานชมรม GenZ จังหวัดเพชรบูรณ์ โรงเรียนวังโป่งศึกษา กล่าวว่า ในฐานะที่เป็นประธานชมรม GenZ และประธานจังหวัด รู้สึกดีใจที่ผู้ใหญ่ในภาคส่วนต่าง ๆ ให้ความสำคัญกับภัยคุกคามใหม่ในกลุ่มเด็กและเยาวชน คือ บุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งเป็นภัยร้ายแรงต่อการเรียนต่อสุขภาพของเยาวชน ที่ต้องร่วมกันแก้ไขและปราบปรามให้หมดไปจากประเทศ ในปัจจุบัน มูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ ให้การสนับสนุนจัดตั้งชมรม Gen Z ในโรงเรียนต่าง ๆ ทั่วประเทศ เพราะชมรม Gen Z มีส่วนในการสร้างภูมิคุ้มกัน สร้างความรู้  สร้างค่านิยมให้เยาวชนเลือกที่จะไม่สูบบุหรี่บุหรี่ไฟฟ้า รวมทั้งยังลุกขึ้นมาปกป้องตัวเองจากภัยบุหรี่ไฟฟ้า โดยใช้กิจกรรมต่าง ๆ ที่ชมรมแต่ละชมรมในจังหวัดต่าง ๆ คิดและดำเนินการทำให้เกิดค่านิยม เลือกไม่สูบบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า ในกลุ่มเยาวชน GenZ