ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

 

ยิ่งลักษณ์เผยไทยจะสามารถช่วยสนับสนุนกาตาร์และโรงพยาบาลของกาตาร์ในการเป็นเจ้าภาพแข่งขันกีฬาระดับโลก เนื่องจากไทยมีผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารจัดการและเวชศาสตร์การกีฬาอยู่มาก โดยโรงพยาบาลกรุงเทพ เป็นโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งของไทย ที่ได้รับการแต่งตั้งจากคณะกรรมาธิการด้านการแพทย์ของฟีฟ่าและศูนย์วิจัยและประเมินทางการแพทย์ฟีฟ่า

วันนี้ (16 พ.ค.)  ซึ่งเป็นวันที่ 2 ของการเดินทางเยือนรัฐกาตาร์อย่างเป็นทางการของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เมื่อเวลา 10.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งช้ากว่าประเทศไทย 4 ชั่วโมง นายกรัฐมนตรี ได้พบหารือกับผู้บริหารของ Aspetar – Qatar Orthopedic and Sports Medical Center  ซึ่ง นายกรัฐมนตรี ชื่นชมพัฒนาการและระบบอำนวยความสะดวกด้านเวชศาสตร์การกีฬาของสถาบัน ASPETAR ที่ถือเป็นสถาบันกระดูกและเวชศาสตร์การกีฬาแห่งแรกในภูมิภาค ปัจจุบัน มีเพียงกาตาร์  ไทย และญี่ปุ่น เท่านั้น ที่มีโรงพยาบาลที่ได้รับการแต่งตั้งจากคณะกรรมาธิการด้านการแพทย์ของฟีฟ่า และศูนย์วิจัยและประเมินทางการแพทย์   ฟีฟ่า (F-MARC) ให้เป็นศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ของฟีฟ่า จึงขอแสดงความยินดีกับกาตาร์ที่ ASPETAR ได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการเป็นสถาบันล่าสุด

นายกรัฐมนตรี  ยังได้กล่าวว่างาน 2022 World Cup ที่จะมาถึง ว่า เชื่อว่าชื่อเสียงและมาตรฐานระดับโลกของโรงพยาบาลในประเทศไทยจะสามารถช่วยสนับสนุน ASPETAR และ โรงพยาบาลของกาตาร์ได้อย่างดี เนื่องจากไทยมีผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารจัดการและเวชศาสตร์การกีฬาอยู่มาก โดยโรงพยาบาลกรุงเทพ เป็นโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งของไทย ที่ได้รับการแต่งตั้งจากคณะกรรมาธิการด้านการแพทย์ของฟีฟ่าและศูนย์วิจัยและประเมินทางการแพทย์ฟีฟ่า (F-MARC) เช่นกัน และปัจจุบัน ได้มีการทำงานร่วมกับ ASPETAR แล้วในด้านการแลกเปลี่ยนแพทย์ พยาบาล และงานศึกษาวิจัยต่างๆ ซึ่งนายกรัฐมนตรีคาดหวังว่าจะมีการทำงานร่วมกันระหว่าง 2 สถาบันมากขึ้นต่อไป

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีสนับสนุนให้ ASPETAR พิจารณาการร่วมลงนามในบันทึกความเข้าใจกับไทย ในการร่วมกันศึกษาวิจัยและพัฒนาวิทยาศาสตร์การแพทย์ กับมหาวิทยาลัยของไทย อันจะเป็นประโยชน์แก่ทั้ง 2 ประเทศ และย้ำว่าไทยมีความพร้อมอย่างยิ่งที่จะทำงานร่วมกับ ASPETAR และรัฐบาลกาตาร์ ในด้านการพัฒนาระบบอำนวยความสะดวกและการบริการด้านเวชศาสตร์การกีฬาระดับโลก และอวยพรให้กาตาร์ประสบความสำเร็จในการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพโอลิมปิคฤดูร้อนในปี 2020 นี้

และเวลา 11.30 น. นายกรัฐมนตรีได้พบหารือกับนาย Hassan Al Thawadi เลขาธิการ Qatar 2022 Supreme Committee โดยได้แสดงความยินดีกับการเป็นประเทศอาหรับชาติแรกที่ได้รับเลือกให้เป็นเจ้าภาพจัดงานฟุตบอลโลกปี 2022 และเชื่อมั่นว่ากาตาร์จะประสบความสำเร็จในการเป็นเจ้าภาพการแข่งขันในอีก 10 ปี ข้างหน้า ทั้งนี้ ประเทศไทยสนใจในการมีส่วนร่วมเป็นผู้ก่อสร้างอาคาร สนามฟุตบอลเพื่อรองรับการแข่งขันฟุตบอลโลก และมั่นใจว่าบริษัทรับเหมาก่อสร้างของไทยมีศักยภาพในการเป็นผู้ก่อสร้างโครงการต่างๆของกาตาร์ ด้วยคุณภาพที่คุ้มค่าแก่การลงทุน ทั้งการเป็นผู้ก่อสร้างหลักและรายย่อย อีกทั้ง ไทยสนใจสนับสนุนงานด้านบริการ อาทิ บริการการแพทย์และสุขภาพ วิทยาศาสตร์การกีฬา เป็นต้น

เมื่อเสร็จสิ้น ภารกิจในช่วงบ่าย เวลาประมาณ 18.30 น. นายกรัฐมนตรีเข้าร่วมงานเลี้ยงรับรองเพื่อพบปะกับภาคเอกชนไทย-กาตาร์ โดยนายกรัฐมนตรีได้กล่าวสุนทรพจน์เพื่อส่งเสริมการลงทุนระหว่างไทยและกาตาร์ให้มากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นภารกิจสุดท้ายก่อนเดินทางกลับประเทศไทยในเวลา 21.00 น. และมีกำหนดเดินทางถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ  จ.สมุทรปราการในเวลา 07.20 น. ของวันที่ 17 พ.ค.

 

ที่มา: สำนักโฆษกรัฐบาล http://www.thaigov.go.th