ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

 

กลุ่มงานเภสัชกรรม รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร จี้รัฐทุ่มงบซื้อใบลานป้องกันการสูญหาย แนะรวบรวมสูตรและตำรับยาตามหอสมุดแห่งชาติและวัดวาอาราม ด้านกรมพัฒนาแพทย์แผนไทย เล็ง ดึงหมอพื้นบ้านช่วยตรวจสอบตำรับยาในแต่ละภาค

จากกรณีข่าวข้อมูลคัมภีร์ใบลานโบราณถูกชั่งกิโลกรัมขายต่างชาติ ล่าสุด ภญ.สุภาภรณ์ ปิติพร หัวหน้ากลุ่มงานเภสัชกรรม โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร กล่าวถึงกรณีดังกล่าว ว่า การค้าดังกล่าวมีมานานแล้วกว่า 20 ปี เพียงแต่ไทยเพิ่งจะมาเห็นความสำคัญในการอนุรักษ์สูตรตำรับยา โดยมีหลายสาเหตุที่ต้องขายออกไป เช่น กรณีที่ลูกหลานอาจขายไป เพราะไม่เห็นคุณค่า หรือบางรายก็เผาไปกับบรรพบุรุษ บ้างก็นำไปทำเป็นเครื่องรางของคลัง แม้ไม่มีผลสำรวจเป็นตัวเลขที่ชัดเจน แต่รัฐบาลต้องให้ความสำคัญเรื่องนี้อย่างจริงจัง ซึ่งหากพิจารณาดีๆ ตำรับยามีอยู่ทั่วไป ทั้งหอสมุดแห่งชาติ ซึ่งมีการรวบรวมไว้เช่นกัน เพียงแต่ไม่มีใครนำมาจัดระบบและนำไปใช้ประโยชน์ รวมไปถึงสถาบันการศึกษาต่างๆ และวัดวาอาราม ซึ่งเชื่อว่า ยังมี เนื่องจากคนในสมัยก่อนจะมีศูนย์รวมอยู่ที่วัด สูตรยาแผนโบราณต่างๆ ก็จะอยู่ที่วัด และชาวบ้านก็คัดลอกลงใบลาน

“รัฐบาลต้องให้ความสนใจจริงๆ เสียที โดยต้องมีการรวบรวมตำรับตำราสูตรต่างๆ ทั่วประเทศไว้ให้เป็นระบบ โดยการทำเช่นนี้จะทำให้ทราบว่า เรามีสูตรยาอะไรบ้าง และประกาศเป็นสูตรยาชาติ จากนั้นก็ไม่ต้องกังวลว่าจะสูญหาย หรือถูกต่างชาติ หรือใครนำภูมิปัญญาไทยไปต่อยอดใช้ในเชิงพาณิชย์ หรืออีกทาง คือ ต้องสร้างแรงจูงใจโดยรัฐบาล หรือกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยฯ อาจต้องมีงบฯในการรับซื้อคัมภีร์ใบลานเพื่อป้องกันการสูญหายด้วย” ภญ.สุภาภรณ์ กล่าว

ด้าน นพ.สุพรรณ ศรีธรรมมา อธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า กรมฯ ทราบถึงปัญหาดี จึงมีแนวทางในการอนุรักษ์ภูมิปัญญาพื้นบ้าน โดยเฉพาะสูตรยาแผนโบราณต่างๆ โดยมีคณะกรรมการคุ้มครองภูมิปัญญาแพทย์แผนไทย ซึ่งมีปลัดกระทรวงสาธารณสุขเป็นประธาน มี อธิบดีกรมฯ เป็นเลขานุการ อย่างไรก็ตาม ได้ออกแนวทางต่างๆ ซึ่งแนวทางหนึ่ง คือ การขอความร่วมมือหมอพื้นบ้านที่ได้จดทะเบียนกับกรมฯทั้งหมด 50,000 คนทั่วประเทศ ทำหน้าที่สอดส่องดูว่ามีสูตรยาพื้นบ้านชนิดใดหลงเหลืออยู่ มีคัมภีร์ใบลานเหลืออีกมากน้อยเพียงใด โดยขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการ เพื่อทำการรวบรวมสูตรยาในแต่ละภาค ว่า ยังคงเหลืออีกมากน้อยเพียงใด จากนั้นจะนำมารวบรวมทำเป็นตำราเพื่อใช้ประโยชน์ต่อไป

ที่มา : www.manager.co.th