ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

 

ตำรวจปราบปรามยาเสพติดล่อซื้อยา "ซูโดอีเฟดรีน" ก่อนบุกจับร้านขายยากลางเมืองอุดรธานี เจ้าของร้านเผยยาดังกล่าวรับคืนมาจากร้านอื่นๆ เตรียมนำส่งบริษัท ชี้เป็นยาหมดอายุแล้ว

เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 8 มิ.ย. 2555 เจ้าหน้าที่จากกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) นำโดย พ.ต.อ.ณภัทร ศรีบรรพต รอง ผบก.ปส.2 พ.ต.อ.อนุรักษ์ ชาติสุวรรณ ผกก.ปส.2 พ.ต.ท.นวัฒน์ อักษรานุกูล พ.ต.ท.ชาติชาย พูลผล รอง ผกก.ปส.2 และนายพรศิลป์ อินทเคหะ เภสัชกรชำนาญการ สนง.สาธารณสุข จ.อุดรธานี ได้นำหมายค้นของศาลจังหวัดอุดรธานี เลขที่ ค.291/2555 เข้าทำการตรวจค้นที่ร้านยิ่งเจริญเภสัช เลขที่ 178/2-3 ซ.บ้านหนองบัว (ซอยกำนัน) เขตเทศบาลนครอุดรธานี

หลังสืบทราบว่าที่ร้านขายยาดังกล่าว มียาแก้หวัดสูตรซูโดอีเฟดรีนเก็บซ่อนไว้ และนำมาลักลอบขายให้กับบุคคลทั่วไป โดยมี นายชม เวียนนอก อายุ 70 ปี เจ้าของร้านนำเจ้าหน้าที่ทำการตรวจค้น พบยาแก้หวัดชนิดเม็ดยี่ห้อนาโซลีน จำนวน 19 แผง 190 เม็ด, ยาเม็ดอามอคซิท 8 แผง กับ 6 เม็ด รวม 86 เม็ด, ยาน้ำแก้หวัดยี่ห้อซูเฟ็ด จำนวน 370 ขวด และยาน้ำแก้หวัด ยี่ห้อยูเวนตุส จำนวน 6 ขวด ที่เป็นยาแก้หวัดที่มีสูตรผสม "ซูโดอีเฟดรีน" ซึ่งเป็นยาที่ทางกระทรวงสาธารณสุขประกาศขึ้นทะเบียนเป็นยาที่ออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท ประเภท 2 โดยยาชนิดเม็ดวางอยู่ในโต๊ะขายยาทั่วไป ส่วนยาน้ำบรรจุในลัง วางอยู่ใต้บันไดทางขึ้นชั้น 2

พ.ต.อ.ณภัทร เปิดเผยว่า ทางตำรวจ ปส.สืบทราบว่าที่ร้านขายยาดังกล่าว ลักลอบขายยาแก้หวัดที่มีสูตรผสมซูโดอีเฟดรีน ตั้งแต่หลังประกาศของกระทรวงสาธารณสุข ให้ร้านขายยาที่มียาสูตรซูโดอีเฟดรีน ส่งยาคืนบริษัทยา ตั้งแต่วันที่ 3 พ.ค.ที่ผ่านมา จึงให้สายเข้าทำการล่อซื้อยาเม็ดยี่ห้อนาโซลีนจากร้านดังกล่าว ที่ขายให้สายในราคาแผงละ 200 บาท จากเดิมก่อนมีประกาศกระทรวงขายแผงละ 20 บาท จึงให้พนักงานสอบสวนของ บช.ปส. ขออนุมัติหมายค้นจากศาลจังหวัดอุดรธานี และพบยาของกลางจำนวนมาก

ด้านนายชม เจ้าของร้านยิ่งเจริญเภสัช ให้การว่า ร้านดังกล่าวเป็นชื่อของตนเอง ที่เปิดให้บุตรสาวที่เป็นตัวแทนยาของ บ.จำหน่ายยาแห่งหนึ่ง โดยใช้ชื่อของเพื่อนบุตรสาวเป็นเภสัชกรประจำร้าน ซึ่งยาทั้งหมดทราบว่าบุตรสาวไปรับคืนมาจากร้านขายยาต่างๆ ที่เคยส่งยาตัวนี้ให้มาเก็บไว้ เพื่อเตรียมจะส่งคืนบริษัท ไม่ได้เอายามาขาย โดยเฉพาะยาน้ำที่หมดอายุตั้งแต่วันที่ 21 เม.ย. ปีที่แล้ว โดยมีการทำบัญชีรับยาไว้กับตัวบุตรสาว ที่ขณะนี้อยู่ต่างจังหวัด เมื่อทราบข่าวก็กำลังเดินทางกลับมา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัวไปทำการสอบสวน โดยแจ้งข้อหา 1. ขายยาโดยไม่ได้รับอนุญาต 2. มีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท ประเภท 2 ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต 3. มีไว้เพื่อจำหน่ายซึ่งยาที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับ 4. ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรม โดยตนมิได้เป็นผู้ที่ได้รับขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรม ส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส.เพื่อดำเนินคดีต่อไป.

 

ที่มา: http://www.thairath.co.th