ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

 

วอชิงตัน : ทีมแพทย์ธนาคารเลือดจากสายสะดือในสหรัฐศึกษาทดลองวิธีใหม่รักษาผู้ติดเชื้อ HIV เลียนแบบชายคนแรกที่หายขาดหลังปลูกถ่ายสเต็มเซลล์จากไขกระดูกปี 2007

โลกต้องต่อสู้กับเชื้อเอชไอวี (HIV) ที่เป็นสาเหตุของโรคเอดส์มานาน แต่ยังไม่มีวิธีรักษาให้หายขาด อย่างไรก็ดี เวลานี้คณะแพทย์ของ ดร.ลอว์เรนซ์ เพตซ์ แห่ง Stem Cyte ธนาคารเลือดจากสายสะดือ อยู่ระหว่างการศึกษาวิจัยเพื่อนำวิธีรักษาใหม่มาใช้ ได้แก่ การปลูกถ่ายเลือดจากสายสะดือ โดยเลียนแบบกรณีที่เคยมีผู้ป่วยคนแรกของโลกหายขาดจากการติดเชื้อ HIV มาแล้วในปี 2007 ซึ่งเป็นผลพลอยได้หลังการปลูกถ่ายสเต็มเซลล์จากไขกระดูกเพื่อรักษาโรคลูคีเมียหรือมะเร็งเม็ดเลือดขาว

ทั้งนี้ ในปี 2007 นายทิโมธี บราวน์ วัย 46 ปี ผู้ป่วยโรคลูคีเมีย ซึ่งติดเชื้อ HIV ด้วยตั้งแต่ปี 1995 ได้รับการปลูกถ่ายสเต็มเซลล์จากไข กระดูกของผู้บริจาคที่มียีนผ่าเหล่าทำให้มีภูมิต้านทานเชื้อ HIV หลังการปลูกถ่ายปรากฏว่านอกจากช่วย รักษาลูคีเมียแล้ว ยังไร้ร่องรอยการติดเชื้อ HIV ด้วย จึงทำให้บราวน์เป็นคนแรกของโลกที่หายจากเชื้อร้ายนี้ได้ด้วยวิธีปลูกถ่ายสเต็มเซลล์จากไขกระดูก

สำหรับการผ่าเหล่าที่ช่วยต้าน ทาน HIV มีชื่อว่า delta 32 ที่พบราว 1% ของผู้มีเชื้อสายจากยุโรปตอนเหนือ โดยพบมากในชนเชื้อสาย สวีเดน แต่ 1% ถือว่ายังน้อย ทำ ให้การจะหาสเต็มเซลล์จากไขกระดูกที่เข้ากันได้และมียีนต้าน HIV ด้วยเป็นไปได้ยาก ซึ่งเป็นอุปสรรคอย่างหนึ่งในการนำวิธีรักษานี้มาใช้ จากเหตุดังกล่าวทีมแพทย์ของ ดร. เพตซ์จึงมองว่า ใช้เลือดจากสายสะดือจะง่ายกว่า เพราะไม่จำเป็นต้องมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันมากระหว่างผู้รับและผู้บริจาค โดยเวลา นี้ค้นพบเลือดจากไขกระดูกที่มียีนผ่าเหล่าต้าน HIV แล้ว 102 ตัว อย่าง จากการวิเคราะห์ 17,000 ตัว อย่าง ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มขึ้นในอนาคต

นอกจากนี้แพทย์ยังทำการทดลองปลูกถ่ายเลือดจากสายสะดือให้ผู้ติดเชื้อ HIV จากเนเธอร์แลนด์ เป็นครั้งแรกเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน และจะดำเนินการกับผู้ป่วยในสเปน อีกรายในปลายเดือนนี้ คาดว่าอีกหลายเดือนกว่าจะตัดสินได้ว่าประสบความสำเร็จหรือไม่ ซึ่งหากสำเร็จจะเป็นประโยชน์มากต่อผู้มีชีวิตอยู่กับเชื้อ HIV ที่มีอยู่ประมาณ 34 ล้านคนทั่วโลก

ที่มา : นสพ.โลกวันนี้ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2555