ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

 

และแล้วกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ก็ได้ขุนพลคนใหม่แทน นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัด สธ. ที่จะเกษียณอายุราชการในวันที่ 30 กันยายน คือ นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต การจัดทัพครั้งนี้ แม้จะถูกมองว่าส่วนหนึ่งมาจากสายการเมือง แต่ต้องยอมรับว่าหลายคนมีฝีมือ ไม่ใช่เล่น

เพราะเริ่มจาก นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ว่าที่ปลัด สธ.คนใหม่ ก็ถูกเลือกด้วยแว่วมาว่า น.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เรียกเข้าสอบถามถึงทิศทางและมุมมองการทำงาน ซึ่งเป็นที่แน่ชัดว่า นพ.ณรงค์ผ่านงานบริหารมามากมาย หนำซ้ำยังดูเรื่องการบริหารการจัดการโรงพยาบาล การเงินการคลัง ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายด้านการร่วมจ่าย 30 บาท และนโยบายลดภาระค่าใช้จ่ายด้านยาที่ไม่จำเป็น ด้วยเหตุนี้เป็นอีกเหตุผลที่แทบไม่มีใครคัดค้าน ว่าที่ปลัด สธ.คนนี้เลย

ที่น่าสนใจอยู่ที่มือบริหารซ้ายขวา ปลัด สธ. ที่ถูกสลับกันยกใหญ่ ทั้ง นพ.สุพรรณ ศรีธรรมมา อธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ก็ถูกเลือกมาเป็นรองปลัด สธ. ดูผ่านๆ เหมือนลดระดับลง แต่จริงๆ ถือว่าระดับเท่ากัน ที่สำคัญคือ นพ.สุพรรณเป็นคนที่ว่าที่ปลัด สธ. หมายตาให้มาช่วยงานแผนยุทธศาสตร์กำลังคนแต่แรก แทน นพ.สมชัย นิจพานิช รองปลัด สธ. ที่ถูกเลือกเป็นอธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก เพียงแต่เดิมที นพ.ณรงค์แทบต่อรองเลือกมือบริหารไม่ได้ด้วยซ้ำ แต่งานนี้ถือว่าประจวบเหมาะโผจัดมาให้แบบพอดี

กอปรกับยังได้มือบริหารคนเดิมประกบอย่าง นพ.โสภณ เมฆธน รองปลัด สธ. มาทำงานด้านการบริหารค่าตอบแทนแพทย์อีกคน ทำให้ถูกมองว่าทิศทางการทำงานด้านนโยบาย ทั้งการบริการสุขภาพ การร่วมจ่าย 30 บาท การลดภาวะโรงพยาบาลขาดสภาพคล่อง หรือการประหยัดค่าใช้จ่ายด้านยาจะขับเคลื่อนชัดเจนยิ่งขึ้น ส่วนงานด้านส่งเสริมสุขภาพก็ถูกยกให้กับรองปลัด สธ.คนเดิม อย่าง นพ.นิทัศน์ รายยวา เพราะมีความสามารถในการผลักดันงานสาธารณสุขชุมชน โดยเฉพาะแกนนำสุขภาพประจำครอบครัว (กสค.) แม้ก่อนหน้านี้จะเคยมีโผเป็นอธิบดี สบส. แต่กลับอกหักก็ตาม

ที่น่าเป็นประเด็น คือ นพ.ชาญวิทย์ ทระเทพ ที่ปรึกษา สธ. ระดับ 10 แว่วว่านอกจากมีเจ๊ดันหนุนนั่งแท่นแบบไม่รู้ที่มาที่ไป ที่หลายคนจับตามอง คือ กรณีมูลความผิด "คอมพ์ฉาว" มูลค่า 900 ล้านบาท ในสมัยรัฐบาลไทยรักไทย ที่คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ อดีตเจ้ากระทรวง มีชื่อตามที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ระบุอีกด้วย เรื่องนี้จึงต้องมองว่า รองปลัด สธ.ผู้นี้จะถูกมอบหมายงานใดเป็นพิเศษ

ส่วนอธิบดีใหม่คนอื่นๆ อย่าง น.ต.นพ.บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ ผู้ตรวจราชการกระทรวง เป็นอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) และ นพ.เจษฎา โชคดำรงสุข ผู้ตรวจราชการกระทรวง เป็นอธิบดีกรมอนามัย แม้จะเป็นผู้ตรวจราชการเพียง 1 ปี แต่สร้างผลงานเช่นกัน ทั้ง น.ต.นพ.บุญเรืองก็มีผลงานในการเดินหน้านโยบายยาเสพติดมาตลอด ประกอบกับ นพ.เจษฎา ผู้ตรวจราชการเขต 9 ก็มีผลงานในการควบคุมมลพิษในนิคมมาบตาพุด โดยเฉพาะกรณีระเบิดที่ระยอง ซึ่งในส่วนสาธารณสุขเข้าไปควบคุมได้อย่างรวดเร็ว ที่สำคัญยังผ่านงานบริหารในโรงพยาบาลราชวิถีอีก แม้ก่อนหน้านี้อาจมีโผว่าจะไปเป็นอธิบดีกรมการแพทย์ แต่สุดท้ายได้กรมอนามัยก็ถือว่าไม่ขี้เหร่

สำหรับ นพ.บุญชัย สมบูรณ์สุข อธิบดีกรมวิทยา ศาสตร์การแพทย์ เป็นเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เพราะมีบ้านเลขที่ 111 อย่างนายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรองนายกรัฐมนตรี คอยสนับสนุน ทำให้งานนี้หลายคนแห้วไปตามๆ กัน ขณะที่ นพ.วชิระ เพ็งจันทร์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เป็นอธิบดีกรมสุขภาพจิต ถือว่าถูกตัว เพราะเป็นลูกหม้อมานาน ส่วนที่ถูกมองว่าการปรับเปลี่ยนครั้งนี้เป็นการยกระดับ คือ นพ.อภิชัย มงคล รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นผู้ตรวจราชการ สธ.

เมื่อพิจารณาบุคคลต่างๆ แม้ทัพ สธ.ชุดใหม่คราวนี้จะมีขั้วอำนาจเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่ก็ต้องยอมรับว่าหลายคนก็มีความสามารถ และควรค่าแก่การให้โอกาส เพียงแต่บางคนอาจถูกจับตามากเป็นพิเศษ งานนี้คงต้องให้ผลงานพิสูจน์ตัวเอง

--มติชน ฉบับวันที่ 25 ก.ย. 2555 (กรอบบ่าย)--