ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

 

เช้าวันนี้ (1 ตุลาคม 2555) เวลา 7.00 น. นายแพทย์ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ เดินทางออกจากกรมสุขภาพจิต มายังสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขเพื่อเข้ารับตำแหน่งปลัดกระทรวงสาธารณสุขโดยได้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงสาธารณสุข ประกอบด้วยพระพุทธนิรามัย พระศรีมหาโพธิ์ พระพรหมพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนกและสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีฯพระอนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทรและเดินทางไปยังห้องทำงานชั้น 3 อาคาร 1จากนั้นรับมอบดอกไม้แสดงความยินดีจากผู้บริหารข้าราชการเจ้าหน้าที่ทั้งส่วนกลางและภูมิภาคประมาณ 500 คน

นายแพทย์ณรงค์กล่าวว่า เป้าหมายการทำงาน จะเน้นการสนองนโยบายของรัฐบาลนายกรัฐมนตรี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และนายวิทยา บุรณศิริรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งมี 4 เรื่องใหญ่ คือ1.การส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคตามกลุ่มอายุ เน้นในกลุ่มเด็กและสตรีและทุกกลุ่มอายุ ในส่วนของสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขกำลังกำหนดเป้าหมายการดำเนินงานในทุกกลุ่มอายุให้ชัดเจนเพื่อจัดบริการและระดมการมีส่วนร่วมทุกภาคส่วนในการดูแลสุขภาพประชาชนตามกลุ่มวัย

2.การจัดระบบบริการให้มีคุณภาพและประสิทธิภาพ ในช่วงตลอด 10 ปีที่ผ่านมาประชาชนเข้าถึงบริการสุขภาพเป็นอย่างดียุคนี้จะต้องพัฒนาคุณภาพและประสิทธิภาพซึ่งเป็นนโยบายของนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขในส่วนของข้าราชการประจำจะจัดทำแผนในการพัฒนาหน่วยบริการทั้งด้านคุณภาพคือเพิ่มขีดความสามารถของแต่ละเครือข่ายบริการในการดูแลผู้ป่วยอย่างดีที่สุดไม่ต้องส่งข้ามเครือข่าย

3.การรับสถานการณ์ฉุกเฉิน โดยเฉพาะภัยพิบัติต่างๆ และ 4.การสาธารณสุขระหว่างประเทศ ทั้งระดับอาเซียน ระหว่างชายแดนและการทำงานร่วมกับองค์กรระหว่างประเทศซึ่งจะเป็นเรื่องสำคัญต่อไปในอนาคต ทั้งหมดนี้จะวางแผนและจัดทำเป็นแผนปฏิบัติการ 3 ปีให้เสร็จสิ้นภายใน 3 เดือนนี้และเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขให้ความเห็นชอบต่อไปเพื่อให้การดำเนินการเป็นรูปธรรมในพื้นที่โดยเร็วที่สุด

นายแพทย์ณรงค์กล่าวต่อว่า สำหรับเรื่องการบูรณาการสร้างความเท่าเทียม 3กองทุนสุขภาพ ได้แก่ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชิต หรือสปสช.กรมบัญชีกลาง และสำนักงานประกันสังคมกระทรวงสาธารณสุขในฐานะผู้ให้บริการจะช่วยกันวางระบบและจัดบริการให้สอดคล้องกับนโยบาย ร่วมกับ 3 กองทุนเพื่อเชื่อมโยงให้บริการอย่างเสมอภาค

รวมทั้งพระราชบัญญัติการชดเชยผู้ได้รับความเสียหายจากบริการทางการแพทย์ด้วยเพื่อให้เกิดประโยชน์กับทุกฝ่าย ทั้งผู้ป่วย แพทย์ และผู้ให้บริการสำหรับเรื่องการบริหารงานในองค์กร จะเน้นความเป็นเอกภาพ

หารือระหว่างวิชาชีพ เพื่อให้ทุกคนได้รับรู้ความเสมอภาค จะมีการพูดคุยกันเริ่มต้นที่งานบริการก่อนโดยจะทำงานเป็นเครือข่ายร่วมกันทั้งโรงพยาบาลใหญ่ โรงพยาบาลเล็กภายใต้ทรัพยากรที่มีร่วมกันอย่างจำกัดเพื่อประโยชน์ของประชาชนอย่างสูงสุด

"หน้าที่สำคัญที่สุดในฐานะปลัดกระทรวงสาธารณสุขนอกจากการดูแลสุขภาพประชาชนทั้งประเทศแล้วก็คือการทำให้กระทรวงสาธารณสุขกลับมาเป็นหนึ่งเดียวเพื่อที่จะเดินไปข้างหน้าพร้อมๆกันสิ่งที่ตั้งใจไว้ตั้งแต่เป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลชุมชนคือช่วยกันดูแลประชาชนให้มีสุขภาพดี และดูแลเจ้าหน้าที่ให้มีความสุข"นายแพทย์ณรงค์กล่าว