ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

 

วันอาทิตย์ (30 ก.ย.) ที่ผ่านมา ผู้แทนสสส. (สำนักงานส่งเสริมสุขภาพ)  จากประเทศมาเลเซีย ออสเตรเลีย  และจากเครือข่ายนักรณรงค์ควบคุมการบริโภคยาสูบในอาเซียน (SEATCA)  ศึกษาดูงานตลาดจตุจักรปลอดบุหรี่ พร้อมชื่นชมวิธีการทำงานศักยภาพของผู้บริหารและคณะทำงานตลาดจตุจักร ที่สามารถทำให้ตลาดที่มีขนาดใหญ่ติดอันดับโลกปลอดบุหรี่ได้

Rizal  Majid   ผู้แทนจาก สสส. ประเทศมาเลเซีย และ Barbara Mouy ผู้แทนจาก สสส.ออสเตรเลีย   พร้อมด้วย Tan Yen Lian and Dr.Lina Foong Kin เครือข่ายนักรณรงค์ควบคุมยาสูบในภูมิภาคอาเซียน (SEATCA)  กล่าวว่า สนใจศึกษาดูงานเรื่องตลาดปลอดบุหรี่  เนื่องจากประเทศไทยมีกฎหมายให้ตลาดเป็นเขตปลอดบุหรี่ ซึ่งมีน้อยประเทศในโลกที่จะทำได้เช่นนี้  จึงเกิดความสนใจและอยากศึกษาถึงวิธีการทำงานให้ตลาดที่มีขนาดใหญ่ติดอันดับโลก อย่างตลาดนัดจตุจักรสามารถปลอดบุหรี่ได้แบบ 100 เปอร์เซ็นต์ คือ ห้ามสูบบุหรี่ในบริเวณตลาดนัดทั้งหมด ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ดีและน่าสนใจอย่างยิ่งเพราะมีน้อยประเทศในโลกจะทำได้ โดยในวันศึกษาดูงานพบเห็นผู้สูบบุหรี่เพียงแค่ 1 คน และมีผู้ค้าสูบบุหรี่เพียง 1 คน ซึ่งแสดงให้เห็นว่านักท่องเที่ยวและผู้ค้าเองรับรู้และปฏิบัติตามกฎหมาย และกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า จะนำตัวอย่างของตลาดปลอดบุหรี่ไปเป็นแบบอย่างในการพัฒนาสถานที่ปลอดบุหรี่ในประเทศของตน   โดยเจ้าหน้าที่ สสส.มาเลเซียบอกว่า สนใจจะนำแนวทางไปสร้างแหล่งท่องเที่ยวอย่างถนนคนเดินในเมืองมะละกาให้ปลอดบุหรี่

ในการศึกษาดูงานครั้งนี้ คุณปรีชา  ไมตรีรักษ์  เลขาผู้อำนวยการบริหารพื้นที่ตลาดนัดจตุจักร และคุณวุฒิชัย  อรรถพรรณ  ประชาสัมพันธ์สถานียิ้มแย้ม ตลาดนัดจตุจักร  กล่าวว่า  ในแต่ละวันมีผู้มาเยี่ยมชมจับจ่ายซื้อของที่ตลาดนัดจตุจักรแห่งนี้มากกว่า 2 แสนคน และมีร้านค้ามากกว่า 8,000  ร้าน จาก 27  โครงการ ดังนั้นในการดูแลตลาดจตุจักรให้ประสบความสำเร็จในการเป็นตลาดปลอดบุหรี่ที่ใหญ่ติดอันดับโลกเกิดขึ้นได้ด้วยความร่วมมือจากหลาย ๆ ฝ่าย และใช้วิธีการหลากหลายในการประชาสัมพันธ์สร้างความร่วมมือให้เกิดขึ้นกับทุกฝ่าย ได้แก่ การประชาสัมพันธ์สามภาษา (ไทย – จีน – อังกฤษ) ผ่านเสียงตามสายทุก 20 นาที และมีบัตรเตือนผู้มาเยือนว่าตลาดนัดเป็นเขตปลอดบุหรี่ อีกทั้งยังได้เน้นการติดป้ายห้ามสูบบุหรี่และสติกเกอร์ห้ามสูบบุหรี่ในทุกโครงการของตลาดนัด รวมไปถึงได้รับความร่วมมือจากตำรวจท่องเที่ยวและเจ้าหน้าที่รปภ.กว่า 200 นาย ดูแลนักท่องเที่ยวในด้านต่างๆ พร้อมกับให้คำแนะนำกับผู้มาเยือนทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศให้เคารพกฎหมายของประเทศไทย ที่กำหนดให้ตลาดเป็นเขตปลอดบุหรี่เพื่อความสุขของทุกคน โดยส่วนใหญ่จะเน้นที่การขอความร่วมมือมากกว่าการจับปรับ เพื่อให้เกิดความรู้สึกที่ดีต่อการท่องเที่ยว  ซึ่งนักท่องเที่ยวทุกคนก็ให้ความร่วมมือด้วยดี และเป็นการสร้างแบบอย่างที่ดีในการสร้างสังคมปลอดบุหรี่ให้เกิดขึ้นในใจของทุกคนที่มาเยือน