ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

 

แพทยสภา นอกจากจะมีหน้าที่ควบคุมความประพฤติของผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมให้เหมาะสมแล้ว อีกหน้าที่ที่สำคัญ คือ การส่งเสริมความสามัคคีและผดุงเกียรติสมาชิกแพทย์ ด้วยเหตุนี้ ในปี 2555 คณะอนุกรรมการสรรหาแพทย์ดีเด่นของแพทยสภา พ.ศ.2555 ได้ทำการสรรหาแพทย์ดีเด่น แพทยสภา และคณะกรรมการแพทยสภามีมติให้ประกาศเกียรติคุณแพทย์ดีเด่นของแพทยสภาจำนวน 3 ท่าน และจะมีการมอบรางวัล และประกาศเกียรติคุณ โดย นพ.เกษม วัฒนชัย ประธานองคมนตรี ในวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ ที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา

สำหรับแพทย์ดีเด่นของแพทยสภา 3 ท่าน 3 ด้าน ประกอบด้วย 1.ศ.นพ.ขจรศักดิ์ ศิลปโภชากุล อาจารย์พิเศษประจำภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ แพทย์ดีเด่นด้านอาจารย์แพทย์ โดย ศ.นพ.ขจรศักดิ์ อายุ 63 ปี สำเร็จการศึกษาจากคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี ม.มหิดล และฝึกอบรมจนได้วุฒิบัตรแสดงความรู้ ความชำนาญในสาขาอายุรศาสตร์ เป็นแพทย์ที่มีความทุ่มเท และเสียสละให้กับการสอนแพทย์และนักศึกษาแพทย์ ตั้งแต่เริ่มรับราชการเป็นอาจารย์แพทย์  จนถึงวัยเกษียณอายุราชการ

อีกทั้ง ยังเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาในการรักษาโรคยาก และซับซ้อนทั้งในและนอกเวลาราชการ คุณภาพในการสอนข้างเตียง ผู้ป่วยอยู่ในระดับที่ทุกคนตั้งใจฟังอย่างจดจ่อ และจำได้ไม่รู้ลืม มีผลงานวิจัยตีพิมพ์ในวารสารต่างประเทศ 23 เรื่อง ได้รับการอ้างอิงในตำราต่างประเทศ 17 เล่ม และได้รับเชิญเป็นวิทยากรต่างประเทศ การได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯให้เป็นศาสตราจารย์สาขาวิชาอายุรศาสตร์เมื่อปี 2549 เป็นหลักประกันถึงความรู้ความสามารถและคุณภาพทางวิชาการในด้านโรคติดเชื้อ รวมทั้งโรคไข้หวัดซาร์ส ไข้หวัดนก

2.นพ.ศุภมิตร ชุณห์สุทธิวัฒน์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านเวชกรรมป้องกัน กรมควบคุมโรค เป็นแพทย์ดีเด่นด้านแพทย์ผู้บริหารประจำปี 2555 สำเร็จการศึกษาจากคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี ม.มหิดล เมื่อปี 2521 และได้รับสาธารณสุขศาสตร์ มหาบัณฑิตจากคณะสาธารณสุขศาสตร์ เมื่อปี 2528 จากนั้นจึงเข้ารับการฝึกอบรมด้านระบาดวิทยา และการควบคุมโรคติดต่อที่สหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่น

ทั้งนี้ เข้ารับราชการครั้งแรกปี 2522 โดยเป็นแพทย์ประจำโรงพยาบาลมุกดาหาร แล้วเริ่มทำงานด้านโรคติดต่อในกรมควบคุมโรค ตลอดเวลาที่ผ่านมาได้นำความรู้ความสามารถประสบการณ์จากการปฏิบัติหน้าที่และวิจัยมาถ่ายทอดผ่านงานวิจัย 26 เรื่อง ผลงานสำคัญคือ การนำวัคซีนใหม่มาใช้ในการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค พัฒนานโยบายสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคบนพื้นฐานของวิชาการไปสู่การปฏิบัติจนแก้ปัญหาสำคัญทางสาธารณสุขของประเทศ ทำให้ความชุกของโรคติดเชื้อลดลง อีกทั้งได้ผลักดันนโยบายกับแผนยุทธศาสตร์วัคซีนแห่งชาติให้มีการพัฒนาวัคซีนครบวงจร เพื่อให้ประเทศไทยผลิตวัคซีนได้เอง

3.นพ.วิทยา ชาติบัญชาชัย รองผู้อำนวยการอาวุโสโรงพยาบาลขอนแก่น เป็นแพทย์ดีเด่นด้านแพทย์ผู้ปฏิบัติงาน สำเร็จการศึกษาคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลเมื่อปี 2520 และฝึกอบรมจนได้วุฒิบัตรศัลยศาสตร์ จากคณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยขอนแก่นเมื่อปี 2526 และได้เดินทางไปฝึกอบรมเพิ่มเติมด้านศัลยศาสตร์อุบัติเหตุ และเวชศาสตร์ฉุกเฉินที่ประเทศออสเตรเลียและญี่ปุ่น

ผลงานสำคัญ คือ การสร้างระบบเฝ้าระวังอุบัติเหตุจราจรอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2534 พัฒนาระบบการดูแลผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุ จัดสัมมนาระดับชาติเกี่ยวกับอุบัติเหตุจราจร สร้างบทเรียนเกี่ยวกับอุบัติเหตุทางถนนจนมีผลงานทางวิชาการด้านนี้มากมาย และล่าสุด ยังเป็นแกนนำสำคัญในการเสนอรัฐบาลให้ประกาศนโยบายความปลอดภัยบนท้องถนนเป็นวาระแห่งชาติ จนเกิดเป็นนโยบายของรัฐบาลที่แถลงต่อรัฐสภาว่าจะลดอุบัติเหตุจราจรให้เหลือน้อยที่สุด

--มติชน ฉบับวันที่ 25 ต.ค. 2555 (กรอบบ่าย)--