ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

 

ชี้ละเมิดสิทธิ สมาชิกสมาคมข้าราชการพลเรือนอาวุโสเรียกร้อง ขรก.ลุยฟ้องศาลปกครอง หลังกรมบัญชีกลางมีมติห้ามเบิกค่ายากลูโคซามีนซัลเฟตแก้ข้อเสื่อม ตั้งแต่ 1 พ.ย.เป็นต้นไปโต้ไม่ใช่อาหารเสริม

เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม พญ.เชิดชู อริยศรีวัฒนา สมาชิกสมาคมข้าราชการพลเรือนอาวุโส ให้สัมภาษณ์กรณีคณะกรรมการบริหารสวัสดิการกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง มีมติห้ามข้าราชการและผู้ใช้สิทธิสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการเบิกค่ายากลูโคซามีนซัลเฟต หรือยาแก้ข้อเสื่อม โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ว่า จะเดินหน้ายื่นฟ้องต่อศาลปกครองอย่างแน่นอน และในวันที่ 30 ตุลาคม จะเข้าชี้แจงคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การสาธารณสุข วุฒิสภา ทั้งนี้ กรมบัญชีกลางทำไม่ถูกต้อง เป็นการละเมิดสิทธิผู้ป่วยที่ห้ามไม่ให้ใช้ยา และละเมิดสิทธิข้าราชการ ที่กรมบัญชีกลางอ้างว่ายากลูโคซามีนเป็นอาหารเสริมนั้น ไม่ถูกต้อง เพราะเป็นการอ้างจากคุณสมบัติของกลูโคซามีนคลอไรด์ ซึ่งไม่มีสรรพคุณรักษาอาการปวดและชะลออาการข้อเสื่อมได้อยู่แล้ว อีกทั้งยังได้อ้างจากงานวิจัยของแพทย์สหรัฐอเมริกา ที่รายงานว่าการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเสื่อมได้ผลดีกว่าการใช้ยา ซึ่งเป็นที่ทราบกันว่า ในสหรัฐมักจะเลือกวิธีที่แพงกว่าในการรักษาผู้ป่วย แต่จากรายงานของศัลยแพทย์สหภาพยุโรประบุว่า ยากลูโคซามีนซัลเฟตใช้ได้ผลดีในการรักษาอาการปวดและชะลออาการข้อเสื่อมได้

พญ.เชิดชู กล่าวต่อว่า เรื่องนี้ข้าราชการทุกคนต้องออกมาเรียกร้องความถูกต้อง อย่าปล่อยให้มีการลิดรอนสิทธิอีกต่อไป เพราะเมื่อกรมบัญชีกลางเดินหน้ายกเลิกเบิกค่ายาตัวนี้ได้แล้ว ยังมีแผนที่จะยกเลิกเบิกค่ายาอีก 9 ชนิด ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง แม้ว่ายากลูโคซามีนซัลเฟตจะใช้ในผู้สูงอายุเท่านั้น แต่ข้าราชการบำนาญจำนวนมากที่มีอาการดังกล่าว และไม่มีรายได้ที่จะซื้อยาชนิดนี้เองได้ทุกคน ข้าราชการเก่าแก่ทุกคนต่างมีพันธสัญญาว่าจะเบิกค่ารักษาตามจริงอยู่แล้ว ดังนั้น กรมบัญชีกลางจึงควรนำมาตรการนี้ไปปรับใช้กับข้าราชการใหม่จะดีกว่า

"ส่วนที่คณะกรรมการบริหารสวัสดิการ กรมบัญชีกลาง มีมติชะลอโครงการ 1 โรคเรื้อรัง 1 โรงพยาบาลนั้น ที่จริงควรชะลอการพิจารณาทุกข้อ และควรให้มีการศึกษาอย่างรอบคอบมากกว่านี้ ก่อนที่จะดำเนินโครงการต่อ" พญ.เชิดชู กล่าว

ที่มา: นสพ.มติชน วันที่ 30 ตุลาคม 2555