ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

 

รมว.สธ.หนุนภาครัฐไทยเป็นศูนย์กลางผลิตบุคลากรทางการแพทย์ที่มีคุณภาพและมีวิทยาการการแพทย์และเทคโนโลยีสมัยใหม่ มีศักยภาพรักษาโรคที่ยากๆ ได้ หวังเป็นประเทศผู้นำเทคโนโลยีทางการแพทย์สมัยใหม่ของอาเซียน ดึงดูดต่างชาติบินมารักษาในไทย สนับสนุนเมดิคัล ฮับทางอ้อม

วันนี้ (13 พฤศจิกายน 2555) นายแพทย์ประดิษฐ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขให้สัมภาษณ์ภายหลังเปิดประชุม “การถ่ายทอดยุทธศาสตร์การบริการพยาบาลระดับประเทศ พ.ศ.2556 – 2560” แก่หัวหน้าพยาบาลโรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป โรงพยาบาลชุมชน ศูนย์/สถาบันสังกัดกรมการแพทย์ กรมอนามัย กรมควบคุมโรค กรมสุขภาพจิต โรงพยาบาลสังกัดภาครัฐอื่น ได้แก่ สำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร กระทรวงกลาโหม ทบวงมหาวิทยาลัย โรงพยาบาลตำรวจ จำนวน 750 คน เกี่ยวกับการเตรียมพยาบาลเข้าสู่ประชาคมอาเซียนว่า ตามยุทธศาสตร์ของรัฐบาล มีนโยบายสนับสนุนให้ภาครัฐ เช่นโรงเรียนแพทย์ เป็นศูนย์กลางผลิตบุคลากรคุณภาพ และมีวิทยาการทางการแพทย์และเทคโนโลยีสมัยใหม่ เพื่อสร้างภาพพจน์ สร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทย เป็นประเทศที่มีความก้าวหน้า สามารถแสดงให้เห็นว่ามีการผ่าตัดยากๆ หรือรักษาโรคที่ยากๆ ในประเทศได้ ซึ่งจะสร้างความเชื่อมั่นให้กลุ่มประเทศเพื่อนบ้านต่างๆ และเดินทางเข้ามารักษาในประเทศไทย ซึ่งจะ เป็นการสนับสนุนในเรื่องของเมดิคัล ฮับทางอ้อมด้วย

“ต่อไปเราอยากให้คนในภูมิภาคนี้ คิดถึงว่าจะรักษาอะไรยากๆ ต้องมาประเทศไทย ไม่ต้องบินไปรักษาในต่างประเทศ ประเทศไทยเป็นยุทธศาสตร์ สิ่งที่เราจะทำคือสร้างชื่อเสียงให้ประเทศว่าประเทศไทยเป็นผู้นำแห่งเทคโนโลยีในภูมิภาคนี้” นายแพทย์ประดิษฐกล่าว

นายแพทย์ประดิษฐกล่าวต่อว่า ในการพัฒนาก้าวไปสู่เป้าหมายดังกล่าว จะต้องมีการวางแผน กำหนดยุทธศาสตร์ของประเทศก่อนว่า ในความก้าวหน้าทางการแพทย์ สิ่งที่เราจะสร้างนั้น เราต้องหาจุดขายของประเทศก่อนเช่น ประเทศเกาหลีสร้างยุทธศาสตร์ในเรื่องความงามหรือคอสเมติก ส่วนของไทยอาจจะเป็นเรื่องเทคโนโลยีการรักษาโรคยากๆ จะต้องมาประเทศไทย เนื่องจากเรามีแพทย์ผู้ชำนาญ จากนั้นจึงวางแผนเรื่องงบประมาณและเทคโนโลยีตามยุทธศาสตร์นั้นๆ ซึ่งเราคงไม่สามารถสร้างประเทศไทยเป็นเจ้าของเทคโนโลยีทุกด้านได้