ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

 

สธ.วาง 2 ยุทธศาสตร์ ดันวงการพยาบาลเป็น'เมดิคัล ฮับ' ด้าน'ผอ.โรงเรียนพยาบาลรามาฯ'ชี้สัดส่วนยังไม่สมดุล แค่ 1:600 ขณะที่มาเลเซีย 1:200 ห่วงเข้าเออีซีบุคลากรไหลออก

เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยหลังเปิดอบรมการถ่ายทอดยุทธศาสตร์การบริการพยาบาลระดับประเทศ ปี 2556-2560 ว่า ปัจจุบันพยาบาลที่ปฏิบัติงานในหน่วยงานสังกัด สธ. มี 92,989 คน ในการ เตรียมความพร้อมเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในปี 2558 นั้น สธ.ได้จัดทำยุทธศาสตร์การบริการพยาบาล 2 ระดับ ได้แก่ ยุทธศาสตร์ 3 ปี ระหว่างปี 2556-2558 และยุทธศาสตร์ 5 ปี ระหว่างปี 2556-2560 ส่วนปัญหากำลังคน โดยเฉพาะการบรรจุลูกจ้างชั่วคราวเป็นข้าราชการนั้น เบื้องต้นลูกจ้างชั่วคราว 11,000 คน ที่รอการบรรจุ ในปีแรกจะสามารถบรรจุได้ 4,000 คน และอีก 3,000 คน ในช่วง 3 ปี อย่างน้อยจะทำให้ได้รับการบรรจุเป็นข้าราชการร้อยละ 80-90 โดยกำลังคนที่เหลือ 7,000 ตำแหน่ง จะหาทางแก้ปัญหาให้ดีที่สุด

นพ.ประดิษฐกล่าวถึงยุทธศาสตร์การพยาบาลเพื่อรองรับอาเซียนว่า จะมีทั้งการพัฒนาศักยภาพบุคลากรพยาบาล ยกระดับคุณภาพงานบริการพยาบาลสู่ความเป็นผู้นำในประชาคมอาเซียน ที่สำคัญจะสนับสนุนให้ระบบบริการพยาบาลของประเทศ เป็นศูนย์กลางด้านคุณภาพบริการพยาบาล (Medical Hub) ในระดับอาเซียน ส่วนระดับประเทศนั้นจะจัดบริการพยาบาลเชิงรุก เน้นการป้องกันโรค การส่งเสริมสุขภาพ พัฒนาระบบบริการพยาบาลในสถานการณ์ฉุกเฉิน ภัยพิบัติ และโรคอุบัติใหม่อุบัติซ้ำ เพื่อให้สามารถดูแลผู้เจ็บป่วยได้

วันเดียวกัน ผศ.จริยา วิทยะศุภร ผู้อำนวยการโรงเรียนพยาบาลรามาธิบดี กล่าวถึงแนวโน้มวิกฤตพยาบาลในประเทศไทย หลังจากพาสื่อมวลชนเยี่ยมชมโรงเรียนพยาบาลรามาฯ ว่ากรณีพยาบาลออกมาเรียกร้องถึงความมั่นคงในวิชาชีพ โดยต้องการบรรจุเป็นข้าราชการนั้น ต้องเห็นใจ เพราะวิชาชีพนี้ไม่ได้มีหน้าที่แค่ ผู้ช่วยแพทย์ แต่มีหน้าที่ช่วยเหลือและดูแล ผู้ป่วยตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งปัจจุบันพยาบาลมีกว่า 1 แสนคน แบ่งเป็นพยาบาลทำงานในหอผู้ป่วยตามโรงพยาบาลต่างๆ และทำงานในชุมชน โดยภาระหน้าที่ถือว่าหนัก จึงจำเป็นต้องดูแลให้อยู่ในระบบมากที่สุด ซึ่งการดูแลนั้นไม่จำเป็นต้องมีค่าตอบแทนที่สูงเพียงอย่างเดียว แต่ต้องมีความมั่นคงในวิชาชีพด้วย เห็นได้จากความต้องการบรรจุเป็นข้าราชการ แม้ไม่ได้มีเงินเดือนสูง แต่มีความมั่นคงและสวัสดิการต่างๆ มาก ส่วนกรณี สธ.เตรียมออกระเบียบปรับสถานะลูกจ้างชั่วคราว ซึ่งรวมวิชาชีพพยาบาลให้เป็นพนักงานกระทรวงสาธารณสุข (ก.สธ.) นั้น สธ.ต้องมีการหารือร่วมกับวิชาชีพต่างๆ ว่ามีความเห็นอย่างไร และต้องการสวัสดิการอะไรบ้าง หากมีความเห็นร่วมเมื่อใด ทุกอย่างก็ไม่ใช่ปัญหา

"ปัจจุบันสถานการณ์ขาดแคลนพยาบาลยังมีอยู่ โดยอัตราส่วนของพยาบาลกับคนไข้อยู่ที่ 1 ต่อ 600 ขณะที่สหรัฐอเมริกา และมาเลเซียมีอยู่ 1 ต่อ 200 ซึ่งจริงๆ แล้วประเทศไทยควรมีสัดส่วน 1 ต่อ 500 แต่ทำไม่ได้ ส่วนหนึ่งก็เพราะค่าตอบแทน และสวัสดิการ ยิ่งใกล้เข้าสู่เออีซี พยาบาลที่มีความรู้ความสามารถและมีทักษะภาษามีโอกาสไหลออกนอกประเทศ โดยเฉพาะสิงคโปร์ เนื่องจากเป็นประเทศที่มีกำลังซื้อมาก หากไม่มีการป้องกันจะเป็นปัญหา" ผศ.จริยากล่าว

--มติชน ฉบับวันที่ 15 พ.ย. 2555 (กรอบบ่าย)--