ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

 

กรุงเทพดุสิตเวชการ มั่นใจศักย ภาพโรงพยาบาลไทย พร้อมขึ้นฮับภูมิภาคเอเชีย เตรียมทุ่มงบพันล้านผุดโรงพยาบาลประเทศพม่า ใน 2 ปี หวังรองรับกำลังซื้อทั้งจากท้องถิ่น นักลงทุนและนักท่องเที่ยว คาดสิ้นปีโกยรายได้ทะลุ 3.5 หมื่นล้านบาท ขณะที่แนวโน้มธุรกิจบรอดแคสต์ ขยับรายได้ขึ้นกว่าหมื่นล้านบาทใน 3 ปี

นายวิชัย ทองแตง รองประธานกรรมการบริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) หรือ BGH ผู้ประกอบธุรกิจโรงพยาบาลเอกชน 4 กลุ่มได้แก่ กลุ่มโรงพยาบาลกรุงเทพ กลุ่มโรงพยาบาลสมิติเวช โรงพยาบาลบีเอ็นเอช และกลุ่มโรงพยาบาลรอยัล และโรงพยาบาลเปาโล รวมกว่า 30 แห่งทั่วประเทศ เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า ด้วยศักยภาพของธุรกิจโรงพยาบาลในประเทศไทย ทำให้เชื่อว่าธุรกิจโรงพยาบาลไทยเป็นธุรกิจที่มีมาตรฐาน ไม่แพ้ต่างชาติ อีกทั้งยังมีนายแพทย์ที่มีคุณภาพและเครื่องมือที่ทันสมัย จึงคาดว่าธุรกิจดังกล่าวจะสามารถขึ้นสู่ฮับในภูมิภาคเอเชียได้ ขณะเดียวกันบริษัทจะต้องเจาะตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้ได้ก่อน ซึ่งในขณะนี้ประเทศที่บริษัทสนใจเข้าไปลงทุนพัฒนาโรงพยาบาลเป็นอันดับต้นๆ คือ ประเทศพม่า

การขยายธุรกิจโรงพยาบาลเข้าสู่ประเทศพม่านั้น บริษัทจะใช้ระยะเวลาดำเนินการก่อสร้างภายใน 2 ปี โดยเตรียมงบลงทุนกว่า 1 พันล้านบาท เนื่องจากมองว่าพม่าเป็นประเทศที่มีศักยภาพในเรื่องของรายได้ประชากร และเป็นเมืองท่องเที่ยว อีกทั้งยังมีนักลงทุนต่างชาติสนใจและเข้าไปลงทุนจำนวนมาก ดังนั้นจากปัจจัยที่กล่าวมาทำให้บริษัทเล็งเห็นว่าประเทศดังกล่าวน่าจะมีศักยภาพเพียงพอในการเข้าไปลงทุนธุรกิจโรงพยาบาลนอกจากนี้บริษัทยังเล็งประเทศเพื่อนบ้านไว้อีกหลายแห่ง

เพื่อเตรียมจะเข้าไปขยาย ธุรกิจดังกล่าว ส่วนธุรกิจโรงพยาบาลที่ประเทศกัมพูชา ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี ซึ่งปัจจุบันโรงพยาบาลที่เปิดให้บริการ ได้แก่ โรงพยาบาลกรุงเทพ และโรงพยาบาลบีจีเอช

สำหรับโมเดลการทำธุรกิจโรงพยาบาลนั้นบริษัทจะเน้นการตั้งบริษัทโฮลดิ้งขึ้น แล้วจึงค่อยขยายเครือข่ายบริษัทลูก โดยปัจจุบันบริษัทมีรายได้จากธุรกิจโรงพยาบาลกว่า 3.5 หมื่นล้านบาทต่อปี ซึ่งยังคงเป็นรายได้หลักในปัจจุบัน ขณะที่ในภาคส่วนของธุรกิจบรอดแคสต์บริษัทมองว่าจะมีอัตราการเติบโตก้าวกระโดด โดยคาดว่าภายใน 3 ปีจะมีรายได้จากธุรกิจบรอดแคสต์กว่า 1 หมื่นล้านบาท

อย่างไรก็ดี พบว่าในปัจจุบันมีนักลงทุนต่างชาติให้ความสนใจขยายธุรกิจโรงพยาบาลในประเทศไทย รวมถึงต้องการเข้ามาถือหุ้นซึ่งสาเหตุดังกล่าวมาจากธุรกิจโรงพยาบาลในประเทศไทยเป็นที่ยอมรับจากคนต่างชาติในมาตรฐานที่มีคุณภาพ บริษัทจึงมุ่งเน้นดำเนินธุรกิจโรงพยาบาลสถานบริการทางการแพทย์ในระดับที่เป็นเลิศ มีมาตรฐานสูงด้วยคุณภาพในระดับสากล เพื่อความไว้วางใจ และพึงพอใจสูงสุดของผู้รับบริการ โดยใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมและทันสมัย การบริหารธุรกิจที่มีเครือข่ายอย่างมีประสิทธิภาพ และมีทีมบุคลากรที่มีความสามารถ มุ่งพัฒนาคุณภาพบริการอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการเจริญเติบโตที่มั่นคงขององค์กร

ที่มา: หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับวันที่ 29 พ.ย. - 1 ธ.ค. 2555