ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

 

โรงพยาบาลสมิติเวช-บีเอ็นเอชเร่งเครื่องลงทุน ทุ่มงบฯกว่า 700 ล.รองรับคนไข้ทะลัก ด้านสมิติเวช สุขุมวิทซื้อที่ดิน 2 ไร่ขึ้นตึกใหม่ เล็งขยายสาขาเพิ่มทั้งกรุงเทพฯ-ตจว. รุกบริหารโรงพยาบาลต่างประเทศ ด้านบีเอ็นเอชลุยปรับโฉม ร.พ.ลั่นสิ้นปีโกยรายได้ 9 พันล้าน

พ.ญ.สมสิริ สกลสัตยาทร กรรมการ ผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มโรงพยาบาลสมิติเวช-บีเอ็นเอช เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า กลุ่มกรุงเทพดุสิตเวชการมีโรงพยาบาลเครือข่าย 29 แห่ง ภายใต้ 5 แบรนด์ คือ โรงพยาบาลกรุงเทพ, สมิติเวช, บีเอ็นเอช, พญาไท และเปาโล โดยแบ่งธุรกิจเป็น 3 กลุ่มซึ่งสมิติเวชและบีเอ็นเอชจัดอยู่ในกลุ่มที่ 2 ปีนี้คาดว่าจะปิดรายได้ที่ 9,000 ล้านบาท เติบโต 12% จากปีก่อน โดยตั้งเป้าเติบโตปีละกว่า 10%

ทิศทางการลงทุนของกลุ่มโรงพยาบาลสมิติเวชและบีเอ็นเอชปี 2556 มีแผนใช้งบฯกว่า 700 ล้านบาท เพื่อรองรับการขยายตัว ของผู้ใช้บริการที่ค่อนข้างหนาแน่น แบ่งเป็นงบฯลงทุนของบีเอ็นเอชจำนวน 100 ล้านบาท ต่อเนื่องจากปี 2555 ใช้งบฯ 150 ล้านบาท เพื่อปรับปรุงอาคาร แผนกและห้องพักผู้ป่วยให้มีความทันสมัย รวมถึง ต่อยอดนำเทคโนโลยีมาช่วยด้านการให้บริการต่าง ๆ ปัจจุบันมีผู้ป่วยนอกเข้ามาใช้บริการวันละ 1,000 คน คนไข้ในมีอัตราครองเตียง 90% จากจำนวนเตียง ที่มี 100 เตียง โดยปีหน้าจะทยอยเพิ่มเป็น 120-150 เตียง ปัจจุบันด้วยโรงพยาบาลได้ขยายเต็มพื้นที่ จึงได้เช่าอาคารคิวเฮ้าส์ เปิดให้บริการแผนกผู้ป่วยนอกเพิ่มเติม

สำหรับกลุ่มสมิติเวชเตรียมงบฯลงทุนมากกว่า 600 ล้านบาท แบ่งเป็นสมิติเวช สุขุมวิทใช้งบฯ 400 ล้านบาท ซื้อที่ดินบริเวณเดียวกันเพิ่มอีกเกือบ 2 ไร่เพื่อสร้างอาคารใหม่ และถือเป็นตึกที่ 3 เป็นอาคาร 6 ชั้น จะเริ่มก่อสร้างไตรมาสแรกของ ปี 2556 ใช้ระยะเวลาก่อสร้างนาน 18 เดือน จะมีจำนวนเตียงเพิ่มขึ้นเป็น 250 เตียง และทยอยเพิ่มให้ได้ 300 เตียงภายใน ปี 2558 จากปัจจุบันมี 220 เตียง อัตราครองเตียงอยู่ที่ 80-90% มีคนไข้นอกเข้ามา ใช้บริการ 2,000 คนต่อวัน

ส่วนสมิติเวช ศรีนครินทร์ เตรียมงบฯไว้ 200 ล้านบาท จุดแข็งของทำเลนี้คือมีการขยายตัวของชุมชนเมืองและใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ และมีความเชี่ยวชาญในแง่ความเป็นโรงพยาบาลเด็ก และการดูแลคนไข้ผู้ใหญ่ซึ่งเน้นไปที่กลุ่มผู้สูงอายุ ขณะที่ สมิติเวช ศรีราชา มีจุดแข็งด้านกระดูกและข้อ ลูกค้าต่างชาติส่วนใหญ่เป็นคนญี่ปุ่น และเน้นเรื่องการดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน มีหมออาชีวอนามัยเพื่อดูแลนิคมอุตสาหกรรมที่มีจำนวนค่อนข้างมาก

"จากนี้จะเป็นลักษณะเช่ามากกว่าซื้อ เราสนใจที่จะขยายสาขาใหม่ภายใต้แบรนด์สมิติเวช ไม่ใช่แค่แห่งเดียวแต่ มีโอกาสทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด ตอนนี้สมิติเวชมี 3 สาขา ที่สุขุมวิท ศรีนครินทร์ ศรีราชา"

พ.ญ.สมสิริกล่าวว่า โพซิชันนิ่งของ บีเอ็นเอชและสมิติเวช สุขุมวิท เจาะกลุ่มลูกค้าตลาดบน โดยมีลูกค้าคนไทย 60% ต่างชาติ 40% โดยบีเอ็นเอชซึ่งตั้งอยู่แถวสีลมและสาทร วางโพซิชันนิ่งเป็นโรงพยาบาลมุ่งดูแลผู้หญิง เพราะคนไข้ส่วนใหญ่เป็น ผู้หญิงเข้ามาใช้บริการต่างๆ อาทิ ทำคลอด ศัลยกรรม และมะเร็งเต้านม เร็ว ๆ นี้เตรียมจะเปิดศูนย์มะเร็งเต้านม และชูความเป็นโรงพยาบาลเอกชนที่มีอายุเก่าแก่ที่สุด ซึ่งปีหน้าจะครบรอบ 115 ปี มีแผนฉลองครั้งใหญ่

ส่วนสมิติเวช สุขุมวิท มีพื้นที่ย่านที่พักอาศัย โดยเฉพาะคนญี่ปุ่นอาศัยในไทยซึ่งเป็นลูกค้าหลักที่เข้ามาใช้บริการถึง 50% วางกลยุทธ์เติบโตในด้านศูนย์สปอร์ต ออร์โทพีดิกส์ ความงามครบวงจร

ทั้งนี้ ยังวางแผนแบ่งปันเครื่องมือและแพทย์ระหว่างโรงพยาบาลในกลุ่มกรุงเทพดุสิตเวชการ พร้อมร่วมกับโรงพยาบาลภาครัฐ เพื่อรองรับการเปิดเออีซี อาทิ โรงพยาบาลจุฬาฯ ดูแลผู้ป่วยมะเร็ง

ด้านแผนลงทุนต่างประเทศ พ.ญ.สมสิริกล่าวว่า ได้เข้าไปรับบริหารในโรงพยาบาลที่พม่าและเนปาล ในปี 2556 จะให้น้ำหนักมากขึ้น อาทิ ลาว อยู่ระหว่างพิจารณารูปแบบว่าจะเป็นลักษณะรับบริหารหรือร่วมทุน

ที่มา: หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ ฉบับวันที่ 29 พ.ย. - 2 ธ.ค. 2555