ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

 

จากการออกหน่วยบริการตรวจเลือดเอชไอวีโดยสมัครใจในช่วงวันเอดส์โลก 30 พ.ย.-1 ธ.ค.55 ของกระทรวงสาธารณสุข สายด่วนปรึกษาเอดส์ 1663  สภากาชาดไทย มูลนิธิเข้าถึงเอดส์ และองค์การแพธ ภายใต้ชื่อ "เอชไอวี ตรวจ...เพื่อก้าวต่อ"  ที่ห้างสรรพสินค้า 5 แห่ง คือ ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ สาขางามวงศ์วาน สาขาบางกะปิ สาขาบางแค และที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลสาขาพระรามสองและพระรามสาม พบว่ามีผู้มารับบริการ 688 ราย เป็นชาย 432 ราย หญิง 256 ราย ในจำนวนนี้พบว่าติดเชื้อเอชไอวี  25 ราย คิดเป็น 3.6  % ถือว่าสูงว่าอัตราการติดเชื้อในภาพรวมของประเทศซึ่งเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 1 %

นายแพทย์ประพันธ์ ภานุภาค ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยโรคเอดส์ สภากาชาดไทยเปิดเผยว่า จำนวนผู้รับบริการดังกล่าวถือเป็นเรื่องน่ายินดีที่ว่าคนไทยมีทัศนคติที่ดีต่อการรู้ผลเลือดของตัวเองโดยกล้าและมั่นใจที่จะเดินออกมาตรวจเลือดเพื่อหาการติดเชื้อเอชไอวี ทั้งมองว่าการตรวจหาการติดเชื้อเอชไอวีเป็นเรื่องปกติเหมือนการตรวจสุขภาพทั่วไปซึ่งจะเป็นผลดีต่อผู้รับบริการเอง

อย่างไรก็ตามเห็นว่า ตัวเลขการติดเชื้อของผู้มารับบริการ 3.6 % นั้นค่อนข้างสูง โดยสูง กว่าเกณฑ์เฉลี่ยของประเทศซึ่งอยู่ที่ 1% จาก การเฝ้าระวัง สุ่มตรวจในแต่ละกลุ่มเป้าหมาย จึงเป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายต้องช่วยกัน ทำให้อัตรา การติดเชื้อเอชไอวีลดลงให้ได้ และหากมีความ เสี่ยงก็สามารถไปใช้บริการตรวจเลือดหาการติดเชื้อเอชไอวีได้ที่โรงพยาบาลของรัฐทุกแห่งโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายปีละ 2 ครั้ง หรือโทร.ปรึกษาได้ที่ 1663 สายด่วนปรึกษาเอดส์

ด้านนายนิมิตร์  เทียนอุดม ผู้อำนวยการมูลนิธิเข้าถึงเอดส์ ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการสายด่วนปรึกษาเอดส์ 1663 กล่าวว่า การรณรงค์เพื่อทำให้คนเห็นความสำคัญของการรู้ผลเลือดตัวเองนั้นเป็นเรื่องจำเป็นสำหรับสถานการณ์เรื่องเอดส์ในสังคมไทย และการทำงานเพื่อทำให้คนที่ผลเลือดเป็นลบรักษาสถานะการไม่ติดเชื้อเอชไอวีของตัวเองได้ตลอดไปนั้นเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง

ที่มา: หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ วันที่ 9 มกราคม 2556