ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

 

รมว.แรงงานมึนคอมพ์จอมืด สปส.ทำสัญญาจ้างเอกชนเสียเปรียบปล่อยเก็บฐานข้อมูลไว้ฝ่ายเดียว สั่งชี้แจงสัปดาห์นี้ เลขาฯสปส.ชี้ระบบสะดุดไร้ปัญหา ผู้ประกันตนขอใช้สิทธิได้ปกติ

เมื่อวันที่ 13 มกราคม นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวถึงปัญหาระบบคอมพิวเตอร์ของสำนักงานประกันสังคม (สปส.) ถูกปิดลง เนื่องจากหมดสัญญาจ้าง กับบริษัท เอสโอเอ คอนซอร์เตียม ตั้งแต่วันที่31 ธันวาคม 2555 ว่า กระทรวงแรงงานทราบเรื่องดังกล่าวมานานแล้ว และสั่งไม่ให้ สปส.ต่อสัญญากับบริษัทดังกล่าว เนื่องจากเครื่องคอมพิวเตอร์ของบริษัททำงานไม่ได้ ทั้งที่ สปส.ต้องจ่ายเงินถึง 2,300 ล้านบาท ในการทำสัญญาจ้างระยะเวลา 5 ปี และไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมคณะกรรมการประกันสังคม (บอร์ดสปส.) จึงปล่อยให้บริษัทเป็นผู้เก็บฐานข้อมูลไว้ฝ่ายเดียว

นายเผดิมชัยกล่าวว่า ที่ผ่านมาบริษัทดังกล่าวมักขู่ว่าระบบคอมพิวเตอร์ของ สปส.จะจอดำหากไม่ต่อสัญญา และขอให้ต่อสัญญาจ้างออกไปอีก3 เดือน ซึ่ง สปส.จะต้องจ่ายเงินถึง 70-80 ล้านบาท จึงไม่ให้มีการต่อสัญญา และได้สั่งให้สปส.มาชี้แจงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นภายในสัปดาห์หน้า

"เราได้สั่งให้ สปส.เข้าไปแก้ปัญหา เพราะสปส.รู้เรื่องนี้มาเป็นปีแล้วว่าจะไม่ต่อสัญญากับบริษัท ก็ควรมีการเตรียมการรองรับ หรือเซ็นสัญญาจ้างบริษัทใหม่ที่ใช้การได้ เพื่อไม่ให้กระทบกับระบบฐานข้อมูล ไม่ควรปล่อยให้จอดำ ควรเตรียมการให้มากกว่านี้ ผมก็งงเหมือนกัน การเซ็นสัญญาของบอร์ด สปส.ควรรอบคอบ แต่ทำไมถึงไปเซ็นสัญญากับบริษัทที่เก็บข้อมูลของ สปส.ไว้ฝ่ายเดียว แล้วปล่อยให้เค้านำมาขู่เรา" นายเผดิมชัยกล่าว

นายเผดิมชัยกล่าวอีกว่า สำหรับการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าระหว่างการรอการย้ายฐานข้อมูลของบริษัทมาเป็นระบบของ สปส. คงต้องใช้การทำงานของเจ้าหน้าที่ให้บริการประชาชนไปก่อนเมื่อย้ายระบบเสร็จสิ้นก็จะสามารถใช้การได้ตามปกติ โดย สปส.ได้เสนอเรื่องการจัดซื้ออุปกรณ์บางตัวเพื่อทำระบบฐานข้อมูลเองเป็นวงเงิน 10 ล้านบาท คาดว่าระบบจะสามารถเปิดใช้การตามปกติได้ในเดือนมีนาคมนี้

ด้านนายจีรศักดิ์ สุคนธชาติ เลขาธิการ สปส.กล่าวว่า สปส.กำลังย้ายระบบฐานข้อมูลออกจากระบบของบริษัทเอสโอเอมาสู่ระบบของ สปส.และได้เตรียมสั่งซื้ออุปกรณ์ใหม่บางตัว อาทิ ระบบการประมวลผลและระบบสั่งการ ซึ่งเป็นระบบที่ทันสมัยกว่า มีประสิทธิภาพในการทำงานสูงกว่า รวดเร็ว และมีราคาถูกกว่า คาดว่าจะใช้เวลาดำเนินการประมาณ 2 สัปดาห์ ระหว่างการย้ายระบบไม่ได้กระทบต่อผู้ประกันหรือกองทุนประกันสุขภาพ ผู้ประกันตนยังสามารถขอใช้สิทธิกรณีประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย ทุพพลภาพคลอดบุตร สงเคราะห์บุตร และชราภาพได้ เพราะได้สำรองข้อมูลและประวัติผู้ประกันตนไว้แล้วโดยสามารถแจ้งขอรับสิทธิได้ที่ สปส.ทุกแห่ง

อย่างไรก็ตาม จะมีปัญหาบ้างในส่วนการใช้สิทธิว่างงาน เพราะระบบมีปัญหาเชื่อมต่อกับกรมการจัดหางานที่ผู้ประกันตนต้องขึ้นทะเบียนเป็นผู้ว่างงาน และยื่นคำขอรับประโยชน์ทดแทนที่สำนักจัดหางานก่อน ดังนั้นขอให้ผู้ประกันตนกรอกข้อมูลและติดต่อเจ้าหน้าที่ สปส.โดยตรงซึ่งในส่วนนี้อาจต้องใช้เวลาในการวินิจฉัย ทำให้ผู้ประกันตนได้รับเงินทดแทนล่าช้า 1-2 วัน

นายจีรศักดิ์กล่าวว่า ส่วนการเก็บเงินจากนายจ้างเข้ากองทุนเงินทดแทนนั้น สปส.จะส่งใบแจ้งหนี้ให้นายจ้าง ซึ่งจำเป็นต้องรบกวนให้นายจ้างมาจ่ายเงินที่ สปส. ซึ่งจะได้รับใบเสร็จการจ่ายเงินที่สามารถใช้ตรวจสอบได้ ขอยืนยันว่าเงินที่เข้าในกองทุนมีความโปร่งใสแน่นอน แต่นายจ้างอาจไม่สะดวกบ้าง จากเดิมที่สามารถจ่ายทางออนไลน์ได้ ส่วนกรณีโรงพยาบาลเอกชนต้องการตรวจสอบสิทธิของผู้ประกันตน สามารถตรวจสอบได้ที่ http://web.sso.go.th/ สปส.ได้โอนข้อมูลและประวัติไว้ในเว็บไซต์นี้แล้ว และในสัปดาห์หน้าจะเดินทางไป สปส.บางจังหวัด เพื่อตรวจสอบปัญหาระบบฐานข้อมูล

ที่มา: หนังสือพิมพ์มติชน วันที่ 14 มกราคม 2556