ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

 

นายพสิษฐ์ ศักดาณรงค์ ที่ปรึกษารมว.สาธารณสุข เปิดเผยถึงการลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส เมื่อเร็วๆ นี้ว่า เป็นการติดตาม เพื่อย้ำนโยบายใหม่ เกี่ยวกับการพัฒนาระบบการบริหารเวชภัณฑ์และยาของโรงพยาบาลในพื้นที่ ซึ่งระบบนี้จะทำให้ได้ยาราคาถูกและมีคุณภาพมากขึ้น โดยโรงพยาบาลแต่ละแห่งจะเก็บสำรองยาไว้ใช้ไม่เกิน 2 เดือน และองค์การเภสัชกรรมจะจัดตั้งคลังสำรองยาและกระจายยาให้ครอบคลุมพื้นที่ทั่วทุกภูมิภาค เป็นเสมือนคลังสำรองยาให้โรงพยาบาลต่างๆ ในภูมิภาค ทั้งในภาวะปกติ และภาวะฉุกเฉินได้ทันที เช่น กรณีเกิดภัยพิบัติต่างๆ ซึ่งจะเป็นการลดค่าใช้จ่ายและพื้นที่สำรองยาในคลังของโรงพยาบาล ให้มียาใช้อย่างต่อเนื่อง โดยนำระบบวีเอ็มไอ (VMI:Vendor Managed Inventory) มาใช้ในการบริหารคลังยา เพื่อให้การกระจายยาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เน้นกลุ่มรายการยาที่มีความจำเป็น ต้องใช้ในปริมาณมาก และมีมูลค่าสูง อาทิ น้ำยาล้างไต วัคซีน ยาปฏิชีวนะ ยาโรคเบาหวาน ยาโรคความดันโลหิตสูง ยารักษาโรคหัวใจ เป็นต้น

นายพสิษฐ์กล่าวว่า สธ.ได้ลงนามร่วมกับองค์การเภสัชกรรม เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพของระบบบริหารเวชภัณฑ์ ล่าสุดทางองค์การเภสัชกรรมรายงานว่า ในเดือน ก.พ.-มี.ค.นี้ จะเริ่มประสานงานไปยังโรงพยาบาลทุกแห่ง ให้รายงานแผนความต้องการใช้ยา และเวชภัณฑ์ ในรายการที่จำเป็น ส่งให้องค์การเภสัชกรรม บริหารการจัดซื้อและจัดหาต่อไป

--ข่าวสด ฉบับวันที่ 30 ม.ค. 2556 (กรอบบ่าย)--