ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

 

เมื่อวันที่ 5 มี.ค. น.ส.วิไลวรรณ แซ่เตีย รองประธานคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย (คสรท.) กล่าวถึงความคืบหน้าของ ร่าง พ.ร.บ.ประกันสังคม ฉบับที่ พ.ศ. . ที่ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งจำนวน 14,264 คน ร่วมกันลงชื่อ ว่า ขณะนี้ร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรในวาระที่ 1 แล้วมีสาระสำคัญใน 3 ประเด็นหลักคือ 1. ปรับโครงสร้างสำนักงานประกันสังคม (สปส.) ให้บริหารงานได้อิสระคล่องตัวมากขึ้น 2. ขยายการคุ้มครองของระบบประกันสังคมไปสู่ลูกจ้างชั่วคราวทุกประเภทของส่วนราชการ รวมทั้งแรงงานนอกระบบทุกกลุ่ม และ 3. การจ่ายเงินทดแทนการขาดรายได้ในกรณีต่าง ๆ เช่น เจ็บป่วย ทุพพลภาพ ว่างงาน ให้แก่ผู้ประกันตนต้องคิดคำนวณเงินสิทธิประโยชน์ทดแทนเป็นลักษณะขั้นบันได โดยผู้ที่ส่งเงินสมทบมานาน 5 ปี ได้เงินทดแทนร้อยละ 70  ของค่าจ้างแต่ละเดือน ส่งเงินสมทบมานาน 10 ปีได้ร้อยละ 80 ของค่าจ้างแต่ละเดือน กรณีผู้ประกันตนที่มีอายุ 55 ปีบริบูรณ์ และเกษียณอายุการทำงาน ต้องได้รับเงินบำเหน็จชราภาพหรือเงินบำนาญชราภาพ รวมทั้งเงินสิทธิประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานด้วย และยังคงมีสิทธิเข้ารับการรักษาพยาบาลในระบบประกันสังคมไปจนกว่าเสียชีวิต ส่วนกรณีเงินสงเคราะห์บุตรนั้นผู้ประกันตนต้องได้รับตั้งแต่คลอดบุตรไปจนกระทั่งบุตรมีอายุ 20 ปี และกรณีผู้ประกันตนประสบอุบัติเหตุสูญเสียอวัยวะ ทุพพลภาพ หรือมีอาการป่วยทางจิตต้องได้รับเงินสิทธิประโยชน์ทดแทนทั้งเงินทุพพลภาพและเงินทดแทนการขาดรายได้ และจัดบริการตรวจสุขภาพผู้ประกันตนฟรีทุกปี อีกทั้งผู้ประกันตนมีสิทธิเข้าถึงข้อมูลข่าวสารของ สปส. ในทุก ๆ เรื่อง และ สปส. ต้องเปิดเผยข้อมูลผลการดำเนินงานต่าง ๆ ในรูปแบบของรายงานประจำปีทุกปีให้ผู้ประกันตนได้รับทราบด้วย

ที่มา: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 6 มีนาคม 2556