ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

 

กลุ่มแรงงานสตรีที่ยื่นหนังสือเรียกร้องสิทธิประกันสังคมสอดคล้องความต้องการของผู้หญิง ชี้เงินชราภาพที่ได้รับไม่พอกิน พร้อมฝากนายกฯเป็นผู้หญิงเหมือนกันควรให้ความสำคัญของแรงงานหญิงเหมือนกัน ขณะที่ "หมอ" เผยชายไทยทิ้งหญิงเป็นมะเร็งปากมดลูกมากขึ้น แนะผู้หญิงดูแลตัวเองอย่าหลงเชื่อฉีดวัคซีนป้อนกันมะเร็งปากมดลูก

เมื่อวันที่ 6 มีนาคม ที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลาสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.)ร่วมกับมูลนิธิเพื่อนหญิง จัดเสวนา "สะท้อนปัญหาแรงงานหญิงกับการเข้าถึงสิทธิประกันสังคมและสวัสดิการสังคม" โดย น.ส.ธนพร วิจันทร์ ประธานกลุ่มบูรณาการแรงงานสตรี กล่าวว่า ปัจจุบันรัฐบาลไม่ให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหาของกลุ่มแรงงานสตรี โดยเฉพาะเรื่องประกันสังคมและสวัสดิการสังคมต่าง ๆ ที่สอดคล้องกับความต้องการของกลุ่มแรงงานสตรี แถมเงินชราภาพที่ได้รับก็ไม่พอกิน เงินสมทบกองทุนสำรองเลี้ยงชีพที่จ่ายทุกเดือนก็ไม่รู้ว่าเอาไปทำอะไร ซึ่งรัฐบาลชุดนี้มีรัฐมนตรีเป็นผู้หญิง น่าเข้าใจผู้หญิงด้วยกันและควรให้ความสนใจบ้าง

"กลุ่มเด็กบูรณาการฯ ยื่นหนังสือต่อคณะกรรมาธิการกิจการ เด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ และผู้พิการที่รัฐสภา เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลจัดสวัสดิการและการประกันสังคมให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้หญิงทำงาน ดังนี้ เพิ่มจำนวนศูนย์เลี้ยงเด็กในพื้นที่อุตสาหกรรม และชุมชน รวมทั้งปรับคุณภาพบริการให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้หญิงทำงาน ให้รัฐบาลรองรับอนุสัญญาองค์การแรงงานระหว่างประเทศ ฉบับที่ 183 เรื่องการคุ้มครองความเป็นมารดา หรือนำหลักการของอนุสัญญามาดำเนินการให้เร็ว และเพิ่มมิติผู้หญิงในระบบประกันสังคม โดยขยายสิทธิประกันสังคมให้ครอบคลุมคนทำงานทุกกลุ่ม เพิ่มสิทธิประโยชน์และอำนวยความสะดวกในการเข้าถึงบริการสิทธิอนามัยเจริญพันธุ์ ที่สำคัญมีสำนักงานประกันสังคมที่เป็นอิสระและกำหนดสัดส่วนหญิงชายเท่าเทียมกันในคณะกรรมการประกันสังคม ที่รัฐสภา และนอกจากนี้ในวันที่ 8 มีนาคม วันสตรีสากล กลุ่มแรงงานสตรีจะไปยื่นหนังสือต่อนายกรัฐมนตรีเช่นเดียวกัน ซึ่งหากนายกรัฐมนตรี หรือรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีไม่มารับด้วยตัวเอง พวกเราก็จะไม่ยื่น" น.ส.ธนพร กล่าว

นพ.พูลชัย จิตอนันต์วิทยา อดีตผู้บริหารสำนักหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ กล่าวถึงสิทธิอนามัยเจริญพันธุ์ เมื่อเป็นมะเร็งเต้านมและมะเร็งปากมดลูก จำนวนมาก ตายประมาณ 2 คันรถตู้ต่อวัน ซึ่งทั้ง 2 โรคนี้ถ้ารู้ว่ามีอาการจะรักษาได้เร็วขึ้น แต่การตรวจโรคมะเร็งไม่สามารถใช้สิทธิประโยชน์สังคมได้ จึงอยากให้รัฐบาล หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดประกันสังคมที่เอื้อประโยชน์ต่อการรักษาสุขภาพด้วย และผู้หญิงหากสงสัยว่าเป็นมะเร็งปากมดลูก ขอให้ไปพบแพทย์ อย่าฉีดวัคซีนตามที่บริษัทยาโฆษณา ส่วนผู้ชายไม่ควรทิ้งผู้หญิงที่เป็นมะเร็งปากมดลูกเพียงเพราะคิดว่าใช้งานไม่ได้

ที่มา: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก วันที่ 7 มีนาคม 2556